"ประยุทธ์" สั่งแก้ปัญหาเน้นคนรายได้น้อย ต้องได้กินข้าวราคาถูกลงบ้าง ผุดไอเดียขายข้าวเกรดบีลดค่าครองชีพ ระบุจัดสรรที่ดินต้องรื้อทั้งระบบเพื่อแก้ปัญหาระยะยาว
เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.แถลงภายหลังการประชุมร่วมครม.และ คสช.ว่า หากมองย้อนกลับไปดูพบว่ามีปัญหาทั้ง 5 กลุ่มงานทั้งในการแก้ปัญหาเร่งด่วน โดยเฉพาะกับประชาชนที่มีรายได้น้อย ซึ่งตนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก แต่ก็ต้องดูแลประชาชนระดับกลาง การค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้านและต่างประเทศ วันนี้ตนขับเคลื่อนทุกที่ ขณะเดียวกันตนก็ได้ชี้แจงกับต่างประเทศว่ารัฐบาลนี้เข้ามาทำแบบนี้ ซึ่งก็ได้รับความเข้าใจมากขึ้นและได้รับความร่วมมือ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราคิดทุกเรื่องทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการที่ดินให้ทำกินได้ ซึ่งต้องดูรายละเอียดเพราะข้อมูลที่ผ่านมาผิดทั้งหมด เรารื้อทุกอย่างเพื่อให้ได้ข้อมูลของประชาชนที่ยากจนและไม่มีที่ทำกินจริงๆ แล้วมาดูว่าจะให้ทั้งหมดได้หรือไม่ ซึ่งวันนี้เราจัดสรรให้ได้ไม่กี่หมื่นราย แต่เป็นการแก้ปัญหาระยะยาว โดยต้องดูในพื้นที่ที่ถูกบุกรุกและเรียกคืนกลับมาก่อนนำไปจัดสรร และดูแลผู้ได้รับผลกระทบ อย่างพื้นที่ปลูกยาง ตนต้องมาคิดต่อว่าทำอย่างไรให้ยางเหล่านี้เป็นต้นทุนของรัฐได้ ซึ่งขณะนี้มีสวนยางที่ยึดมา ถ้าตัดทิ้งหมดมันก็โล้น จึงต้องตัดแถวเว้นแถว ส่วนไม้ที่ได้ก็นำไปแปรรูปให้ชาวบ้านไปใช้ประโยชน์ ส่วนที่จัดไปแล้วก็ต้องปลูกไม้ยืนต้นแทรก ส่วนผลิตภัณฑ์ยางนั้นต้องไม่ทำให้กลไกตลาดเสียหาย ยางเหล่านี้เราจะไม่ไปขายข้างนอก โดยนำไปเป็นต้นทุน เช่นสนามกีฬา ฉะนั้นจะสามารถทำให้สร้างธุรกิจเอสเอ็มอีที่มาลงทุนในเรื่องเหล่านี้ ซึ่งทุกอย่างต้องไม่มีผลกระทบต่อรายได้ประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้สิ่งแรกที่ตนสั่งคือทำอย่างไรทำให้คนรายได้น้อยมีข้าวกินที่ราคาถูกลงบ้าง ชาวนาบ่นว่าขายข้าวได้ถูกต้อง ซึ่งเป็นกลไกตลาดอยู่แล้ว ไม่ได้ถูกเพราะอย่างอื่น มันจะขายตันละหมื่นกว่าบาทไม่ได้ เพราะราคาอยู่ที่ 9 พัน แต่ไม่เกิน 1 หมื่นบาทต่อตัน แต่เขาต้องมาซื้อข้าวที่แพงเพราะผ่านคนกลางและการบริหารจัดการทำให้เขาสงสัยว่าทำไมขายข้าวได้น้อย แต่ซื้อข้าวแพงมากิน ตนก็จะรับไปจัดการว่าจะทำอย่างไรได้แต่การจัดการไม่ใช่การเอาข้าวไปแจกอย่างเดียว ต้องดูว่าทำได้หรือไม่ในการทำข้าว ที่มีคุณภาพรองลงมาและราคาต้องถูกกว่าปกติ แต่ต้องเป็นไปตามกลไกตลาดไม่กระทบการระบายข้าว แต่ตนไม่ได้สั่งให้องค์การคลังสินค้า(อคส.) ไปทำอย่างเดียว เดี๋ยวหาว่าทุจริตอีก แต่คิดต่อว่าจะทำอย่างไร โดยใช้สหกรณ์แล้วนำข้าวที่ต้องปรับปรุงคุณภาพ ซึ่งต้องใช้งบประมาณอีกตันละหลายพันบาท เมื่อปรับปรุงขึ้นมาก็ขายได้เท่านั้น ตนเคยเรียนไปแล้วว่าข้าวทุกชนิดที่ผ่าน
ปรับปรุงคุณภาพมีมูลค่าไม่ใช่ตันละ 15,000 บาท แต่ขึ้นไปถึง 2 หมื่นบาทต่อตันและเกือบ 3 หมื่นบาทถ้ายืดต่อไปเรื่อยๆ ฉะนั้นจึงต้องใช้ข้าวที่คุณภาพเริ่มเสื่อมหรือเกรดบีมาขายคนจนได้หรือไม่ โดยผ่านตลาดชุมชนที่มีสหกรณ์เป็นผู้ดำเนินการและรัฐอำนวยความสะดวกให้กระทรวงมหาดไทยดูแล
ที่มา : โพสต์ทูเดย์ วันที่ 9 มิ.ย. 2558