ฟอร์บส์ ไทยแลนด์ เผย 50 อันดับมหาเศรษฐีไทย "ธนินท์" แห่งซีพีรวยสุด "ทักษิณ" ยังติดอันดับ10
นิตยสาร ฟอร์บส์ ไทยแลนด์ เปิดเผย 50 อันดับมหาเศรษฐีของประเทศไทยประจำปี 2558 พบว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจจะเติบโตช้าลง แต่มูลค่าทรัพย์สินรวมของมหาเศรษฐีทั้ง 50 อันดับกลับเพิ่มขึ้นเป็นรวมกว่า 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 3.355 ล้านล้านบาท คิดเป็น 1 ส่วน 4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ส่วนใหญ่รํ่ารวยจากตลาดหุ้น
ทั้งนี้ ทำเนียบมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของเมืองไทยตกเป็นของ ธนินท์ เจียรวนนท์ จากเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นอีก 9.73 หมื่นล้านบาทจากปีก่อน ส่งผลให้มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 4.83 แสนล้านบาท ตามด้วย เจริญ สิริวัฒนภักดี จากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มีมูลค่าทรัพย์สิน 4.36 แสนล้านบาท และอันดับ 3 เป็นของตระกูลจิราธิวัฒน์ เจ้าของธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัล มีมูลค่าทรัพย์สิน 4.12 แสนล้านบาท ตามมาด้วย เฉลิม อยู่วิทยา กฤตย์ รัตนรักษ์ วานิช ไชยวรรณ สันติ ภิรมย์ภักดี ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ วิชัย ศรีวัฒนประภา
ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังติดอันดับ 10 ด้วยทรัพย์สินมูลค่า 5.7 หมื่นล้านบาท แม้จะถูกศาลฎีกาตัดสินยึดทรัพย์มูลค่า 4.6 หมื่นล้านบาทในปี 2553 จากคดีรํ่ารวยผิดปกติ แต่ยังติดอันดับมหาเศรษฐีไทยมาตลอด
สำหรับที่มาของความมั่งคั่งครั้งนี้ มาจากการทำธุรกิจที่มีมูลค่าระดับแสนล้าน ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร อุตสาหกรรมเครื่องดื่ม ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจการเงิน ค้าปลีก โรงแรมและสายการบิน รวมไปถึงสถานีโทรทัศน์ โดยเฉพาะ ธนินท์ ที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นถึงกว่า 1 แสนล้านบาท จากราคาหุ้นที่ถือครองอยู่เพิ่มสูงขึ้น
ที่น่าสนใจคือ มีเศรษฐีหน้าใหม่ติดอันดับถึง 6 คนด้วยกัน ซึ่งในจำนวนนี้ 3 คน มีมูลค่าทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นจากการนำบริษัทเข้าตลาด หลักทรัพย์ในช่วงปีที่ผ่านมา อาทิ เสถียร เศรษฐสิทธิ์ บริษัท คาราบาว กรุ๊ป และฉัตรชัย แก้วบุตตา บริษัท ศรีสวัสดิ์ เพาเวอร์ เป็นต้น
ทั้งนี้ ความโดดเด่นของคาราบาว กรุ๊ป คือการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2557 จนติดโผคนรวยอันดับที่ 47 และศรีสวัสดิ์ เพาเวอร์ ที่เติบโตจากตลาดระดับรากหญ้าสู่มูลค่า 4 หมื่นล้านบาท ติดอันดับ 34
อย่างไรก็ตาม วิกฤตการณ์ทางการเมืองในปีที่ผ่านมา ยังส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินและอันดับของมหาเศรษฐีหลายคนในทำเนียบลดลงในปีนี้ จากกำลังซื้อภาคครัวเรือนที่ลดลง ในภาครัฐบาลลดการอุดหนุนภาคเกษตรกร และจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง
นอกจากนี้ จากสถานการณ์ยอดขายรถยนต์ในประเทศไทยที่หดตัวลง ยังมีผลให้ตระกูลผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์หล่นอันดับลงมา อีกทั้งมีมหาเศรษฐี 7 คนต้องหลุดอันดับจากทำเนียบ 50 มหาเศรษฐีของประเทศไทยปี 2558 โดยเฉพาะ นพพร ศุภพิพัฒน์ นักธุรกิจพลังงานที่ต้องหนีคดีไปต่างประเทศ
ที่มา : โพสต์ทูเดย์ วันที่ 4 มิ.ย. 2558