24 พ.ค.58 นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ความคืบหน้าแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคเกษตรทั้งระบบมีมูลหนี้กว่า 1.2 ล้านๆ บาท โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม เช่นกลุ่มลูกหนี้กระทรวงเกษตรฯ กลุ่มลูกหนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กลุ่มลูกหนี้ ที่ขึ้นทะเบียนหนี้ไว้กับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และกลุ่มลูกหนี้หน่วยงานอื่นๆ เช่น กยส.โดยในส่วนกลุ่มลูกหนี้ที่เกษตรกรขึ้นทะเบียนหนี้(ทะเบียนเกษตรกร) ไว้กับสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ ได้มีการตรวจสอบข้อมูลหนี้กับสถาบันการเงินเจ้าหนี้ในเบื้องต้นแล้ว 4 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์ ธ.ก.ส. ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงไทย ซึ่งได้นำข้อมูลหนี้ดังกล่าวมาจัดทำแผนการชำระหนี้แทนเกษตรกร ไว้รองรับการใช้งบประมาณที่ได้รับความเห็นชอบจากครม.เศรษฐกิจ จำนวน 3 พัน ล้านบาท เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหานี้สินเกษตรกร
นายอำนวย กล่าวต่อไปว่าตามหลักการแผนการชำระหนี้แทนเกษตรกร โดยให้สำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ เร่งชำระหนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือนวงเงิน 3 พันล้านบาท แบ่งเป็น ระยะที่ 1.ภายในเดือนมิ.ย.58 ชำระหนี้แทนเกษตรกรร้อยละ 35 2.ภายในเดือน ส.ค. 58 ชำระหนี้แทนร้อยละ 35 3.ภายในเดือนก.ย. 58 ชำระหนี้แทนร้อยละ 30 โดยให้ศูนย์ประสานการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร ติดตามและตรวจสอบข้อมูลหนี้กับสถาบันการเงินที่ยังไม่ส่งข้อมูล เร่งรัดให้ส่งภายในวันที่ 29 พ.ค. และให้สถาบันการเงินเจ้าหนี้ ชะลอการดำเนินการทางกฎหมายทุกกรณีกับเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ ออกไปจนกว่าจะชำระหนี้แล้วเสร็จ ส่วนที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. ที่มีรายชื่อในโครงการปรับโครงสร้างหนี้และพื้นฟูอาชีพเกษตรกร ตามมติครม.7 เม.ย. 53 จำนวน 1,780 ราย ยังมีเกษตรกรที่ได้สิทธิจำหน่ายหนี้สูญตามมติครม. 31 มี.ค. 58 อีก จำนวน 28,000 ราย
ทั้งนี้ ได้จัดตั้งศูนย์ประสานการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรและแต่งตั้งคณะกรรมการประสานการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรให้เกิดความรวดเร็ว โดยมีรมช.เกษตรฯเป็นประธานกรรมการ เพื่อเร่งรัด ติดตามผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ที่มา : แนวหน้า วันที่ 24 พ.ค. 2558