Posted by countrygirl
จากจุดเปลี่ยนการปลูกพืชผักเกษตรอินทรีย์ที่บริโภคในครัวเรือนมาเป็นปลูกเพื่อส่งขายให้กับห้างซุปเปอร์มาเก็ตในห้างใหญ่ กลุ่มสหกรณ์ปลูกผักปลอดสารพิษบ้านสว่างทรัพย์วงศ์ ต.ห้วยเตย อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น ได้กลายเป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายผักอินทรีย์มากถึง 28 ชนิด
"อุดม แสนบุตร"กำนันต.ห้วยเตย อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น ประธานกลุ่มสหกรณ์ปลูกผักปลอดสารพิษบ้านสว่าง-ซำโองบอกว่าปัจจุบันกลุ่มปลูกผักมีสมาชิก 115 ราย มีพื้นที่ปลูกผัก 52 ไร่ แต่เดิมชาวบ้านจะทำนาปี เป็นหลักรวมทั้งการปลูกอ้อย มันสำปะหลัง แต่ได้ปรับเปลี่ยนมาปลูกผักอินทรีย์ แรกเริ่มการปลูกปลอดสารพิษในหมู่บ้านจะเน้นเพียงเพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และรับประทานกันในครัวเรือนเท่านั้น นอกจากการปลูกพืชผักแล้วข้าวที่ชาวบ้านปลูกจะปลุกตามระบบจีเอ็มพีด้วย นอกจากปลูกผักแล้วชาวบ้านยังเรียนรู้ตลอดจนการทำปุ๋ยหมักชีวภาพจากหอยเชอรี่เพื่อใช้กับพืชผัก โดยมีเจ้าหน้าที่มาอบรมการใช้ปุ๋ย อีกทั้งทางกลุ่มยังได้แก้ปัญหาเกี่ยวกับดินเค็มในพื้นที่แต่ประเด็นดังกล่าวไม่ได้เป็นปัญหามากนัก
ในอดีตชาวบ้านใช้สารเคมีกันมากในการปลูกผักหรือการทำนา ทำไร่ต่าง ๆ แต่เมื่อมีการปรับเปลี่ยนปลูกพืชโดยเกษตรอินทรีย์ในช่วงแรก ๆ ได้มีการบริการตรวจสุขภาพให้กับชาวบ้าน แต่ก็ไม่พบว่าผู้ใดมีสารพิษตกค้าง การทำเกษตรแบบปลอดสารเคมีถือเป็นการบูรณาการของคนในพื้นที่เนื่องจากมีการได้ปรับปรุงและพัฒนาในหลายเรื่องทั้งการเกษตร การปศุสัตว์ไปด้วยเช่นการเลี้ยงไก่ ปลา วัว เป็นต้น เป็นการให้องค์ความรู้ต่าง ๆ ในหลายสาขาการเกษตร ซึ่งการทำเกษตรที่นี่โชคดีที่เรามีน้ำใต้ดินใช้ทางเกษตรและเพื่อบริโภคเองที่สำคัญได้ผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่กี่ยวข้องแล้ว ว่าสะอาดปลอดภัยได้มาตรฐาน
ตามที่ได้เกริ่นไว้เบื้องต้นว่าก่อนที่จะมีการนำผักไปขายเมื่อปี 2552กลุ่มสหกรณ์ได้ออกร้านขายผ้าไหมซึ่งในครั้งนั้นคณะผู้บริหารเซ็นทรัลโดย"กลุ่มเซ็นทรัลพัฒนาชุมชน"ทราบว่าชาวบ้านได้ปลูกผักปลอดสารพิษจึงได้ติดต่อดูงานและลงสำรวจในพื้นที่ดูสภาพความเป็นอยู่ของชาวบ้านว่าชาวบ้านทำอะไรบ้าง จนกระทั่งได้กลายมาเป็น"โครงการเซ็นทรัล-ซำสูงโมเดล"เมื่อปี 2553 ซึ่งทางเซ็นทรัลได้ดำเนินการในรูปของของโครงการให้ความช่วยเหลือทางด้านโรงบรรจุภัณฑ์ผัก โรงสีชุมชน ซึ่งผักที่เราปลูกมี 28 ชนิดอาทิคะน้า กวางตุ้ง ถั่วฝักยาว เป็นต้น จะจัดส่งไปยังท็อปซุปเปอร์มาเก็ต เซ็นทรัลทุกสาขาในกทม.อาทิตย์ละ 1 ครั้ง และเป็นการขายขาด และให้ในราคาที่สูงกว่าตลาดทั่วไปซึ่งแต่ละครั้งจะขายได้ประมาณ 50,000 บาท ส่วนการขายผักปลอดสารพิษที่จว.ขอนแก่นเราจะมีพื้นที่ขายเอง
จากจุดเริ่มของการปลูกผักปลอดสารพิษไว้เพียงรับประทานกันในครัวเรือนจนกลายมาเป็นเพื่อการค้าขายทางกลุ่มได้มีการบริหารจัดการที่เป็นระบบมากขึ้น มีการควบคุมจัดการจัดตั้งสหกรณ์กลางการเกษตรเมื่อปี 2553 เป้าหมายต้องการให้สิ่งที่ทำมีความยั่งยืน ไม่ห่วงแค่เงินทองที่จะได้ในระยะสั้นชั่วคราว แต่ให้นึกถึงผลที่ตามมา ทั้งการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ และถือเป็นความภาคภูมิใจที่จะได้รักษาไว้ให้กับรุ่นลูก รุ่นหลานต่อไป แม้ว่าราชการจะเปลี่ยนไปแต่คนเราในชุมชนต้องมีการร่วมมือกันให้เข้มแข็งและทำทุกอย่างให้มีความยั่งยืนต่อไป .----- ประธานกลุ่มสหกรณ์ปลูกผักปลอดสารพิษบ้านสว่าง-ซำโอง กล่าวทิ้งท้าย
การทำน้ำหมักชีวภาพ
ที่มา : โอเคเนชั่น วันที่ 1 พ.ค. 2558