โดย...ภาณุมาศ ทักษณา
หนังสือพิมพ์ โพสต์ทูเดย์ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้ 20 ม.ค.2558 กระทรวงเกษตรฯและเสนอให้ ครม.พิจารณาโครงการแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกร
ซึ่งหนี้ก้อนดังกล่าวนี้เป็นหนี้จากโครงการส่งเสริมของรัฐและกองทุนในกำกับของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รวมทั้งสิ้น 9,000 ล้านบาทโดยจะยกหนี้ให้เกษตรกรวัยชราหรือไม่สามารถชำระหนี้ได้หรือที่ค้างมากว่า 10 ปีแล้ว
ความจริงผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับการล้างหนี้ให้เกษตรกรง่าย ๆ แบบไม่มีเงื่อนไขนะครับ แต่ก็คงไปคัดค้านกระทรวงเกษตรไม่ได้ อีกอย่างเมื่อพิจารณาวัยและความสามารถของลูกหนี้แล้วคงต้องปล่อยเลยตามเลยครับ
เพียงแต่อยากฝากข้อสังเกตไปยังคณะรัฐมนตรีว่า เมื่อมีมติให้ยกเลิกหนี้ให้เกษตรกรเหล่านั้นแล้ว ผมอยากให้คณะรัฐมนตรีกำหนดมาตรการหรือเงื่อนไขสำหรับเกษตรกรกลุ่มที่ได้รับการยกหนี้ด้วยนะครับ
เพราะเท่าที่จำได้การล้างหนี้เกษตรกรนั้น ไม่ได้เกิดในรัฐบาล คสช.เป็นครั้งแรกนะครับ ใครมาเป็นรัฐบาลก็ออกมาตราการช่วยเหลือเกษตรกรที่มีหนี้สินด้วยวิธีการรวบรวมรายชื่อและตัวเลขแล้วประกาศยกหนี้ให้ทั้งนั้น
หลังจากนั้นผ่านไปอีกไม่เท่าไหร่ หนี้ของเกษตรกรที่เหมือนหางหมูที่ถูกล้างดินออก ก็พอกพูนขึ้นมาเป็นหนี้ก้อนใหญ่อีก และหากรัฐบาลใดไม่ล้างหนี้ให้ เกษตกรก็จะออกมาเดินขบวนเรียกร้องให้ล้างหนี้ให้อีกจนได้
เหมือนถมหินลงไปในบ่อที่ถมเท่าไหร่ก็ถมไม่เต็มครับ และสิ่งที่รัฐบาล คสช.ควรจะเพ่งเล็งให้มากคือบรรดากลุ่ม ชมรม สมาคม หรือองค์กรที่มีชื่อชาวนา หรือชื่อเกษตรกรต่อท้ายนั่นแหละครับ ตัวสำมะคัญนักละ
พวกแกนนำกลุ่มองค์กรเกี่ยวกับเกษตรกรเหล่านี้เหมือนทำนาเป็นงานอดิเรก และนำชาวนาออกมาประท้วงรัฐบาลเป็นงานหลัก เพราะมีให้เห็นทุกยุคทุกสมัย บรรดาแกนนำเหล่านี้แหละครับที่รัฐบาล คสช.ต้องเอาให้อยู่
ไม่งั้นคนพวกนี้ต้องออกมาป่วนแน่ ไม่เชื่อคอยดูหลังจาก ครม.มีมติให้ล้างหนี้ให้ชาวนาเฉพาะกลุ่มดังกล่าวนี้แล้ว พวกมันก็จะก่อหวอดหาสาเหตุไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลืออีกจนได้
คนเหล่านี้แม้จะมีอาชีพเริ่มต้นเป็นชาวนา แต่ผมไม่อยากเรียกชาวนาครับ อยากเรียกพวกนี้ว่าพวกปลิงที่อยู่ในหนองน้ำหรือในนาที่โดดเกาะแข็งขาชาวนาเพื่อดูดเลือดที่ละนิดทีละหน่อยจนอ้วนพีทุกตัว
ดังนั้น เมื่อ ครม.มีมติให้ล้างหนี้ขาวนากลุ่มนี้แล้ว ต้องกำหนดเงื่อนไขว่าชาวนากลุ่มนี้ไม่มีสิทธิ์กู้เงินจากสถาบันการเงินใด ๆ อีกต่อไปอย่างเด็ดขาด เพราะการถูกล้างหนี้ให้ก็ไม่ต่างจากรัฐบาลปลดโซ่ตรวนให้แล้ว
และหากเป็นไปได้ ผมอยากให้รัฐบาล “แยก” กลุ่มชาวนากลุ่มนี้ ออกจากการผูกมัดหรือการพันธนาการของบรรดาองค์กรที่มีชื่อชาวนาต่อท้าย พูดง่าย ๆ คือป้องกันชาวนากลุ่มนี้ถูกพวกแกนนำองค์กรชาวนาชักชวนไปประท้วงอีก
หากท่านไม่วางมาตรการป้องกันอย่างนี้ ผมเชื่อว่าอีกไม่นานวงรอบของการเป็นหนี้ก็จะวนกลับมาทับชาวนาอีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอนครับ
ที่มา : สำนักข่าวเจ้าพระยา วันที่ 20 ม.ค. 2558