ฝนที่ตกโปรยปรายมาทั้งคืนเพิ่งซาเม็ดลงเมื่อตอนเช้ามืด แสงแรกของวันดูขมุกขมัวเพราะท้องฟ้ายังมีเมฆดำปกคลุมอยู่ทั่ว สรรพสัตว์ในท้องนาต่างพากันร้องดังระงมต้อนรับความชุ่มฉ่ำของสายฝน ประสานกับเสียงไก่ขันที่ดังแว่วมาเป็นระยะ
เด็กหญิง-เด็กชายสองพี่น้องตื่นแต่เช้าตรู่มาอาบน้ำแต่งตัว เตรียมพร้อมไปโรงเรียนวันแรกหลังจากที่ต้องเลื่อนเปิดภาคเรียนไปหลายเดือน เพราะสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
เมื่อแม่ส่งเสียงเรียกให้มากินข้าว พ่อจึงหยุดกวาดเศษกิ่งไม้ใบไม้ที่ร่วงหล่นจากลมฝนเมื่อคืนนี้ ขณะที่เด็ก ๆ สะพายเป้หนังสือเดินตามกันออกมาจากห้องนอน สำรับอาหารเช้านี้มีแกงจืดหมูบะช่อกับใบตำลึง ที่เก็บมาจากสวนผักข้างบ้าน ปลาช่อนแดดเดียวทอดกลิ่นหอมฟุ้ง ซึ่งพ่อไปทงเบ็ดได้มาจากทุ่งนาข้าวอินทรีย์ของพ่อเอง และผัดยอดผักอ่อมแซบ(ตำลึงหวาน) รับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ
วันนี้แม่เก็บผักได้หลายอย่าง มีผักที่เป็นเครื่องต้มยำ คือ ตะไคร้ หัวข่า ใบมะกรูด มะนาว ผักที่เป็นเครื่องยำและลาบ คือ สะระแหน่ ผักชีฝรั่ง พริกขี้หนูสวน ต้นหอม และยังมียอดชะอม กะเพรา โหระพา บวบ มะเขือเทศ กระเจี๊ยบเขียว มะระจีน และดอกแคขาว อีกด้วย ส่วนถั่วฝักยาว น้ำเต้า และแตงกวา ยังต้องรอให้ถึงวันพรุ่งนี้จึงจะเก็บได้
กว่าพ่อจะกลับถึงบ้านก็เวลาบ่ายคล้อยไปแล้ว หลังจากจิบน้ำใบเตยอุ่น ๆ หอมชื่นใจที่แม่เตรียมไว้ให้จนหายเหนื่อย ก็รีบกุลีกุจอมาช่วยแม่จัดผักเป็นกำ ๆ เตรียมไว้ส่งให้น้าข้างบ้านซึ่งจะรับไปขายที่ตลาดเย็น หลังจากเสร็จธุระเรื่องขายผักแล้ว พ่อก็ขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปที่แปลงนา ปีนี้พ่อวางแผนจะปลูกข้าวปลอดภัยต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 หลังจากที่ทำนาแบบใช้สารเคมีมาเกือบทั้งชีวิต แต่ก็ไม่เคยขายข้าวได้ราคาดี ถูกกดราคาจนไม่มีเงินเหลือเก็บ และยังมีหนี้สินเพิ่มขึ้นทุกปี
ตอนนั้น พ่อกับแม่หันหน้ามาปรึกษากันว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องปรับตัวเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตและอนาคตที่ดีขึ้น และลงมือปฏิบัติจริงไปตามขั้นตอน เริ่มด้วยการลดความเสี่ยงจากการทำนาเพียงอย่างเดียว มาทำเกษตรที่หลากหลาย ทั้งการทำนา ปลูกผัก ผลไม้ และเลี้ยงสัตว์เพิ่มเติม ลดต้นทุนด้วยการปรับระบบการผลิตให้ปลอดภัย ใช้สารชีวภาพที่ผลิตได้เอง พัฒนาศักยภาพและความรู้เรื่องการแปรรูป หาช่องทางตลาดและเข้าถึงคนซื้อโดยตรง และยกระดับตัวเองให้เป็นชาวนามืออาชีพ ที่สำคัญคือต้องเรียนรู้ตัวเองด้วยการวางแผนชีวิต แผนการผลิต และจัดระบบการเงินของครอบครัว
พ่อมีความเชื่อว่าระบบชุมชนที่เปิดใจรับฟังปัญหากัน จะช่วยสร้างกิจกรรมที่นำไปสู่การรวมกลุ่มเพื่อทำอะไรร่วมกันได้ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยกันแก้ไข เยียวยา และดูแลให้ชาวนาที่มีปัญหาหนี้สินได้ผ่านวิกฤติไปได้ พ่อจึงชวนเพื่อนชาวนาที่สนใจได้ 5 ราย ทดลองปรับเปลี่ยนมาปลูกข้าวในระบบอินทรีย์ ซึ่งแม้จะไม่ค่อยมั่นใจ แต่ก็มีหัวใจที่มุ่งมั่นและพร้อมลงมือปฏิบัติจริง
ในระหว่างทางย่อมมีปัญหาอุปสรรคอยู่เสมอ หากแต่การแสวงหาความรู้และไม่ยอมหยุดพัฒนาตัวเองคือปัจจัยสำคัญที่นำมาใช้ในการแก้ปัญหา มีความรู้อยู่มากมายที่จะนำมาปรับใช้ให้เหมาะสม เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวแม้จะได้ข้าวในปริมาณที่น้อยลงกว่าเดิม ได้เงินน้อยกว่าที่เคยได้ แต่กลับพบว่าเงินจำนวนนั้นคือกำไรสุทธิที่แทบไม่เคยมีมาก่อนจากการทำนาที่ผ่านมา นั่นเป็นเพราะต้นทุนด้านสารเคมีและยาปราบศัตรูพืชที่ลดลง กลายเป็นเงินส่วนต่างที่นำไปบรรเทาปัญหาหนี้สินได้ คือข้อพิสูจน์ที่ตอกย้ำให้มีกำลังใจสู้เพื่อพัฒนาอาชีพชาวนาที่ปรับการผลิตไปสู่ระบบอินทรีย์ซึ่งอยู่รอดได้จริง แถมยังภูมิใจที่ได้ช่วยดูแลดิน ถนอมน้ำ รักษาสิ่งแวดล้อม ช่วยสร้างผลผลิตคุณภาพดีที่ปลอดภัยทั้งคนปลูกและคนกิน อีกทั้งยังคืนความสมบูรณ์ให้ระบบนิเวศของท้องทุ่ง ให้มีทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ข้าว และพืชอาหารที่หลากหลายของคนเรา
หลังเลิกเรียน เด็กหญิงผู้พี่หิ้วมะละกอลูกใหญ่กลับมาบ้าน พร้อมบอกเล่าอย่างตื่นเต้นว่า ต้นมะละกอที่เธอกับเพื่อน ๆ ช่วยกันปลูกไว้ที่โรงเรียน ตอนนี้ออกลูกดกมากจนกินไม่ทัน คุณครูเลยให้เอากลับมาฝากที่บ้าน ขณะที่เด็กชายผู้น้องก็ส่งเสียงดังเจื้อยแจ้วไม่แพ้กันว่า ต้นมะเขือกับพริกที่เขาปลูกไว้ ก็ยังอยู่รอดและออกผลดกเหมือนกัน
แม่จัดการกับมะละกอลูกนั้นเป็นเมนูมะละกอผัดไข่ อาหารมื้อเย็นทานกับน้ำพริกถั่วลิสง ผักสด แกงเลียงผักรวม และข้าวสวยร้อน ๆ ที่หุงจากข้าวอินทรีย์ที่พ่อปลูกเอง ผสมน้ำคั้นดอกอัญชันที่ปลูกไว้รอบบ้าน แต่งสีให้เป็นข้าวสีน้ำเงินหอมกรุ่นน่ารับประทาน
ค่ำแล้ว แสงไฟในบ้านเปิดสว่าง แมลงกลางคืนส่งเสียงร้องระงมเป็นดนตรีธรรมชาติจากกลางทุ่ง สายลมเย็นพัดโชยมาเป็นระยะพร้อมเห็นแสงฟ้าแล่บอยู่ไกล ๆ เป็นสัญญาณว่าคืนนี้คงมีฝนกระหน่ำมาอีกระลอก พ่อหยิบถุงเมล็ดพันธุ์ข้าวออกมานั่งคัด เพื่อเตรียมไว้ปลูกในเวลาอีกไม่นานนี้ ส่วนแม่ก็กำลังส่งเสียงกระซิบระคนหัวเราะ ขณะที่สอนให้เด็กน้อยทั้งสองได้รู้จักเมล็ดพันธุ์ผักชนิดต่าง ๆ ก่อนช่วยกันแยกประเภทบรรจุลงถุง
พ่อเงยหน้าขึ้นมองฝ่าความมืดไปที่ทุ่งนากว้าง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยปนเปื้อนอาบทาด้วยสารพิษ หากแต่ขณะนี้ได้พลิกฟื้นกลายเป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ที่ผลิตอาหารปลอดภัยหล่อเลี้ยงผู้คน สร้างระบบนิเวศให้สรรพสัตว์และพืชมากมายได้อิงอาศัยร่วมกัน รวมถึงสร้างความเป็นอยู่ที่ดีและอนาคตที่มั่นคงให้กับครอบครัวอีกด้วย
พ่อยิ้มให้ภาพตรงหน้าอย่างมีความสุข พร้อมพูดกับตัวเองเบา ๆ ว่า ....อยากให้เป็นอย่างนี้ทุกวันจังเลย....
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.