แผนพัฒนา...จำเป็นต้องมีในทุกระดับ ตั้งแต่แผนพัฒนาประเทศ จังหวัด อำเภอ ตำบล จนถึงหมู่บ้าน รวมถึงแผนพัฒนาครอบครัว แผนเล็กที่ยิ่งใหญ่ แผนชีวิตครอบครัวก็จำเป็นต้องมีด้วยเช่นกัน แผนชีวิตคืออะไร แผนชีวิตคือการจดบันทึกค่าใช้จ่ายครัวเรือนของตนเอง การจัดทำบัญชีโดยทั่วไปอาจแค่รู้รายรับและรายจ่าย แต่หากจะนำไปสู่การพัฒนาตนเองและครอบครัว จำเป็นต้องเรียนรู้ว่าควรทำบัญชีรายจ่ายอย่างไร การจดบันทึกต้องลงรายละเอียดทุกบาททุกสตางค์ จึงจะทำให้เราสามารถเขียนแผนชีวิตที่ดีได้
การบันทึกรายจ่ายครัวเรือนอย่างละเอียด จะทำให้เราสามารถสังเคราะห์ข้อมูลจากรายจ่ายได้ และทำให้เกิดกระบวนการคิดตามอย่างมีเหตุมีผล และสามารถตัดสินใจในอนาคตได้ ยกตัวอย่างเช่น การซื้อพริกเพื่อนำมาทำกับข้าว บางคนอาจจะบอกว่าแค่เงินไม่กี่บาทซื้อเอาก็ได้ แต่หากมาลองคิดกลับกันว่าเงินไม่กี่บาท คิดเป็นจำนวนวัน เดือน ปี รวมกันแล้วจะเป็นเงินกี่บาท ตัวอย่างเช่น
ถ้าหากคนหนึ่งคนกินพริกมื้อละ 1 บาท 1 วัน มี 3 มื้อ เท่ากับ 3 บาท เดือนหนึ่งมี 30 วัน เท่ากับกินพริกเดือนละ 90 บาท 1 ปีมี 12 เดือน เท่ากับกินพริกปีละ 1,080 บาท ถ้าทั้งครอบครัวอยู่ด้วยกัน 5 คน เท่ากับหนึ่งครอบครัวกินพริกปีละ 5,400 บาท นี่แค่เงินซื้อพริกมื้อละ 1 บาทยังมีรายจ่าย 5,400 บาท ถ้ามีการจดรายจ่ายอย่างละเอียด การสังเคราะห์ข้อมูลเรื่องการกินพริกก็คงต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน การเกิดกระบวนการคิดต่อยอดจากรายจ่ายที่ต้องเสียไปของครอบครัว 5,400 บาทต่อปี หากคิดเรื่องตัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ทำให้เกิดเป็นเงินออมของครอบครัวจะดีกว่าไหม การเรียนรู้ด้วยการทำบัญชีครัวเรือนจะนำไปสู่การคิดต่อยอดแผนเพื่อที่จะนำเอารายจ่ายเปลี่ยนมาเป็นเงินออม โดยต้องมีการศึกษาว่า... หนึ่งครอบครัวจะต้องปลูกพริกกี่ต้นจึงจะพอกิน และจะมีวิธีการปลูกอย่างไร? นี่คือแผนพัฒนาชีวิตและครอบครัวของตนเอง
เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาชาวบ้านหมู่บ้านชัยคลี อำเภอหนองแก้ว อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี หมู่บ้านชัยคลีมีชาวบ้านหลายครัวเรือนที่ขาดแคลนที่ดินทำกิน ชาวบ้านพึ่งพิงรายได้หลักจากการเก็บหาของป่าและรับจ้าง ซึ่งในรอบปีก็จะมีรายได้จากการเก็บหาของป่าหมุนเวียนไปตามฤดูกาล เช่น ไข่มดแดง ผักหวาน หน่อไม้ เห็ด ฯลฯ พอหมดฤดูกาลก็ไปรับจ้าง อย่างไรก็ตามรายได้ที่ได้เข้ามาในครอบครัวแต่ละเดือนไม่สม่ำเสมอ ในขณะที่รายจ่ายของครอบครัวก็จะมีการจ่ายประจำทุกวัน โดยเฉพาะรายจ่ายในเรื่องค่าอาหาร ค่าเล่าเรียนบุตรหลาน และค่าของใช้ในครัวเรือน ล้วนเป็นสิ่งจำเป็นทั้งสิ้น
จากที่ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับชาวบ้านในเรื่องแนวทางการลดรายจ่ายในครัวเรือน ทำให้ชาวบ้านเกิดความตั้งใจที่จะลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนของตนเอง ชาวบ้านชัยคลีจำนวนหนึ่งจึงได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มที่จะศึกษาเรียนรู้เรื่องการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนของตนเอง ด้วยการเริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ ด้วยการทำแชมพู น้ำยาซักผ้า และน้ำยาล้างจานใช้เองเพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือน
ซึ่งจากการทดลองทำกิจกรรมครั้งนี้ ทำให้พบว่าการทำกิจกรรมผลิตแชมพู น้ำยาซักผ้า และน้ำยาล้างจานใช้เองเป็นเรื่องที่ไม่ยากลำบาก และสามารถทำกันได้ทุกเพศ ทุกวัย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เมื่อจบกระบวนการแล้ว ทางกลุ่มได้มีการอภิปรายข้อมูลสินค้าหลัก ๆ ที่ชาวบ้านซื้อใช้ในครัวเรือน และมีการวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึก พบว่าสินค้าเหล่านี้ที่ขายในท้องตลาดทำไมราคาถึงแพง ส่วนหนึ่งเพราะมีการโฆษณาอย่างมาก ทำให้ได้ข้อมูลว่าเนื่องด้วยทางบริษัทจะต้องมีการจ้างดาราเพื่อโฆษณาสินค้า จ่ายค่าเช่าเวลากับทางสถานี และมีค่าใช้จ่ายจิปาถะเพื่อให้สินค้าติดตลาด และกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดความต้องการอยากใช้สินค้าของตนเอง ดังนั้นเมื่อบวกต้นทุนค่าการตลาดเข้าไปจึงทำให้สินค้ามีราคาแพงจากความเป็นจริงหลายเท่าตัว
กลุ่มชาวบ้านที่เข้าร่วมกิจกรรม วางแผนกันว่าจะทำการผลิตเอง ใช้เอง เพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือน และขายกันเองเล็ก ๆ น้อย ๆ ในหมู่บ้านของตนเอง พร้อมกับการจัดทำบัญชีรายจ่ายของครัวเรือนไปด้วย เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในครอบครัวของตนเองแล้ว ยังสามารถเป็นกิจกรรมเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้หมู่บ้านของตนเองได้เป็นอย่างดี
หากชาวบ้านและคนในชุมชนสามารถทำแผนพัฒนาครอบครัวและชีวิตได้มากขึ้น ก็จะทำให้เราลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนและสามารถนำรายจ่ายเป็นเงินออมให้กับชีวิตครอบครัว และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้ โดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจและความขัดสนในยุคสมัยนี้
ที่มา : ไทยโพสต์ วันที่ 12 พ.ค. 2562
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.