สามพรานโมเดล อะคาเดมี (Sampran Model Academy) เปิด 5 เทรนด์น่ารู้สำหรับผู้บริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์ปี 2562 จากประสบการณ์การทำงานขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ ทั้งงานต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ บวกการศึกษาแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของตลาดทั้งในและต่างประเทศ พร้อมเปิด 6 หลักสูตรเข้มข้นรองรับการเติบโตของสินค้าเกษตรอินทรีย์ หวังยกระดับการขับเคลื่อน ขยายพื้นที่ และสร้างฐานสังคมอินทรีย์ให้มั่นคงยั่งยืน
นายอรุษ นวราช ผู้ก่อตั้งสามพรานโมเดล และสามพรานโมเดล อะคาเดมี กล่าวว่า จากประสบการณ์การทำงานขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ภายใต้สามพรานโมเดลช่วง 8 ปีที่ผ่านมา พบว่าการบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเกิดความเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจในหลายมิติ โดยเฉพาะในปี 2562 มีเทรนด์น่ารู้สำหรับผู้บริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์ 5 ประเด็นที่น่าจับตา ประกอบด้วย
1. ตลาดอินทรีย์มีเฮ ในภาพรวมคาดว่าตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์จะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องด้วยปัจจัยสนับสนุน เช่น ความตื่นตัวเรื่องภัยสารพิษ และความรู้ความเข้าใจเรื่องโภชนาการ และการดูแลตัวเองพร้อมๆ กันกับการร่วมดูแลสังคมสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้น ยังมีการหนุนเสริมของภาครัฐด้วยยุทธศาสตร์พัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ พ.ศ. 2560-2564 รวมถึงการตอบรับของผู้ประกอบการที่เล็งเห็นโอกาสสร้างจุดขาย นับเป็นข่าวดีสำหรับผู้บริโภคอินทรีย์ที่จะมีช่องทางเข้าถึงสินค้าอย่างกว้างขวางในราคาจับต้องได้มากขึ้น
2. แปรรูปเป็นเรื่อง (เป็นราว) ในปี 2562 คาดว่าจะพบการเติบโตของสินค้าเกษตรอินทรีย์แปรรูปมากขึ้น โดยเฉพาะหมวดขนม เครื่องดื่มต่างๆ ทำให้ผู้บริโภคอินทรีย์มีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น และยังเป็นการช่วยสนับสนุนเกษตรกรในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิต โดยมีการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐหลายแห่งที่พร้อมให้งบประมาณกระตุ้นการพัฒนาสินค้า สำหรับรสชาติแนวโน้มไปในทางการคงความเป็นธรรมชาติให้มากที่สุด เช่น การได้ความหวานแบบธรรมชาติ (Natural Sweetness) ที่มีปริมาณน้ำตาลน้อยลง และยังพบกระแสความสนใจสูตร และรสชาติเฉพาะของท้องถิ่น ซึ่งเข้ามาสร้างความแตกต่างตื่นเต้น พร้อมกันกับความรู้สึกว่าได้สนับสนุนคนในชุมชนไปด้วย
3. อินทรีย์ทั้งตัว วิถีอินทรีย์ ไม่ได้มีแค่เรื่องของกิน แต่ยังรวมไปถึงของใช้ เทรนด์โลกพบการเติบโตอย่างสูงของกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการดูแลตัวเอง เช่น ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผม และเครื่องสำอาง ด้วยแนวคิดของผู้บริโภคที่ว่า อะไรก็ตามที่มาถึงตัว (ถึงไม่ได้นำเข้าปาก) ก็จะพยายามลด หรือเลี่ยงการใช้สารเคมีให้มากที่สุด จึงเห็นการนำเสนอสินค้าใหม่ๆ ที่ผลิตมาจากวัตถุดิบอินทรีย์ชนิดต่างๆ อย่างช็อกโกแลต น้ำผึ้ง สาหร่าย โดยทิศทางไปในการพัฒนาสินค้าพรีเมียมที่โดดเด่นทั้งคุณภาพ และภาพลักษณ์
4. เชื่อมือจึงเชื่อมั่น ประเด็นความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกับสินค้าอินทรีย์ยังคงมีบทบาทสำคัญ แต่แนวโน้มจะเริ่มขยับจากการมองหาตรารับรองต่างๆ เป็นการเปิดกว้างรับเครื่องมือทำงานอื่นๆ เช่น ระบบการรับรองแบบมีส่วนร่วม (Participatory Guarantee System หรือ PGS) ซึ่งแสดงให้เห็นได้ถึงความโปร่งใส เป็นธรรมในกระบวนการทำงานของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในห่วงโซ่อินทรีย์ (เช่น เกษตรกร ผู้ประกอบการ) ในปีที่ผ่านมายังมีการก่อตั้งสมาพันธ์เกษตรอินทรีย์ไทย พีจีเอส ที่คาดว่าจะสร้างการรับรู้ระบบนี้อย่างแพร่หลายมากขึ้น
และ 5. บริโภคทวนน้ำ ใครว่าผู้บริโภคต้องอยู่ที่ปลายน้ำในห่วงโซ่อินทรีย์เท่านั้น แนวโน้มปัจจุบันพบความตื่นตัวของผู้บริโภคที่จะมีส่วนร่วม ทั้งในกระบวนการตรวจเยี่ยมแปลงของเกษตรกรต้นน้ำในระบบ PGS การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเวทีเสวนา และหลักสูตรอบรม เช่น ที่พบความสนใจเข้าร่วมกับสามพรานโมเดล อะคาเดมี รวมถึงการสนับสนุนกิจกรรมสัมพันธ์กับผู้ประกอบการ เช่น Go Green กับตลาดสุขใจ
อย่างไรก็ตาม คาดว่าปี พ.ศ. 2562 จะเป็นปีที่เห็นการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์หลากมิติ ซึ่งในส่วนของสามพรานโมเดล ภายใต้กลยุทธ์ Organic Social Movement มีแนวทางชัดเจนที่จะจุดประกายให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ ร่วมทำงานกับภาคีที่ต้องการองค์ความรู้จากสามพรานโมเดลเพื่อขยายต่อยอด รวมถึงจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การทำงาน นอกจากนี้ ยังจะเป็นปีที่จะได้เห็นพลังของนักขับเคลื่อน Organic Social Mover เพื่อร่วมผลักดันสังคมอินทรีย์สู่ชีวิตที่สมดุล ซึ่งเบื้องต้นมีผู้สนใจสมัครร่วมขับเคลื่อนแล้วกว่า 1,000 คน
สำหรับการเผยแพร่องค์ความรู้สามพรานโมเดล และการสร้างผู้นำร่วมเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง ให้ระบบอาหาร ในปีนี้ทางสามพรานโมเดล อะคาเดมีได้เปิด 6 หลักสูตรเข้มข้นรองรับผู้สนใจเข้ามาเรียนรู้ โดยเป็นหลักสูตร 2 วัน 1 คืน ครอบคลุมเรื่องการบริหารจัดการฟาร์มอินทรีย์ การท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ ระบบการรับรองอย่างมีส่วนร่วม การสร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก และเชิงระบบ โดยหลักสูตรแรกจะเป็นการอบรมขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ในแนวทางสามพรานโมเดล ซึ่งจะจัดขึ้นที่สวนสามพราน ในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 2-3 กุมภาพันธ์ 2562
“หลักสูตรการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ตามแนวทางสามพรานโมเดลเป็นสิ่งที่เราตั้งใจมาก เพราะหลายคนอยากรู้ว่าเราทำได้อย่างไร อยากรู้ประสบการณ์การทำงานร่วมกับคนต้นน้ำ คือ เกษตรอินทรีย์ การเชื่อมโยงตลาด รวมถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ การขยายสู่การท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ ซึ่งเชื่อว่าหลักสูตรเบื้องต้นที่เราจะพาทุกคนลงแปลงจริง เจอเกษตรกรตัวจริง นำโจทย์ที่แต่ละคนมี และอยากพัฒนามาคุยกัน ให้เห็นภาพทั้งงานต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ จะทำให้ผู้ที่สนใจมีใจอยากทำ ” นายอรุษกล่าว
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 18 ม.ค. 2562
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.