ม.44 อีอีซี
การใช้มาตรา 44 กับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี แสดงถึงความเร่งรีบของโปรเจ็กต์ใหญ่ดังกล่าว
สำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียบเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ.) ระบุว่า เร่งรัดขั้นตอนต่างๆ ในการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินในอีอีซีสำหรับการจัดวางผังเมืองและพัฒนาเมืองให้รวดเร็วเป็นรูปธรรมมากขึ้น
เมื่อใช้ ม.44 แล้วจะช่วยปรับปรุงการทำงานร่วมกันระหว่างกรมโยธาธิการและผังเมืองกับสกรศ.ให้กว้างขวาง กระชับและรวดเร็วมากขึ้น
จากเดิมคาดว่าจะใช้เวลากำหนดพื้นที่อุตสาหกรรมในอีอีซีให้มีแผนผังชัดเจนในช่วงเดือนส.ค.2561 จะขยับขึ้นมาเป็นเดือนเม.ย.-พ.ค.2561
แผนผังดังกล่าวนี้ เมื่อจัดทำเป็นกฎหมายผังเมืองใหม่แล้วจะมีผลบังคับใช้ภายใน 1 ปี และทำคู่ขนานไปกับการจัดทำพระราชบัญญัติการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน และนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนในอีอีซีได้เลย
จะมีการนำพื้นที่ลงทุนภาคอุตสาหกรรมใน 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา มาปรับปรุงจัดทำเป็นผังเดียว ให้มีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค แผนการใช้ประโยชน์ในที่ดินในภาพรวม นโยบายและแผนภาพรวมเพื่อการพัฒนาพื้นที่อีอีซี
ข้อความสำคัญที่ชี้แจงในตอนท้าย คือให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ และเหมาะสมกับศักยภาพจริงของพื้นที่
คณะผู้เกี่ยวข้องกับแผนอีอีซียืนยันด้วยว่าการประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนหรือชุมชนนั้นเข้มงวดตามปกติ
ไม่ว่าจะเป็นโครงการท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือมาบตาพุด หรือโครงการอื่นๆ ขั้นตอนเรื่องสิ่งแวดล้อมยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
มีคำมั่นว่าจะจัดรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียประชาชน และชุมชนที่เกี่ยวข้องก่อน ตามข้อกำหนดในรัฐธรรมนูญที่คุ้มครองอยู่
คำอธิบายนี้สำคัญในขั้นตอนการปฏิบัติจริง ว่าจะไม่เป็นปัญหาเหมือนโปรเจ็กต์ใหญ่อื่นๆ ที่ผ่านมา
โดยเฉพาะการรับฟังความเห็นของประชาชนจริงๆ ของส่วนราชการ
ที่มา ข่าวสด 3 พฤศจิกายน 2560