ข้อมูลดาวเทียมสามารถสะท้อนการเพาะปลูกและความเสี่ยงของชาวนาได้จริงหรือ?
ข้อมูลดาวเทียม Terra MODIS และ Radarsat ที่มีความถี่และความละเอียดสูงทั่วประเทศ ซึ่งจะสามารถใช้ในการติดตามสถานะการเพาะปลูกแบบใกล้เคียงเวลาจริงตลอดจนนำมาสร้างสถิติความเสี่ยงเกษตรกรจากข้อมูลจากดาวเทียมระยะเวลา 16 ปี ในอดีตของแต่ละพื้นที่กว่าหกสิบล้านไร่ทั่วประเทศ ซึ่งเมื่อได้ตรวจสอบกับข้อมูลการเพาะปลูกจริงรายครัวเรือนจากการสำรวจของหลายสำนัก พบว่าการประมาณการเพาะปลูกและความเสียหายมีความแม่นยำโดยเฉลี่ยถึง 80% และ 75% ตามลำดับ และในบางกรณีมีความแม่นยำกว่าข้อมูลรายพื้นที่ ที่ถูกจัดเก็บโดยภาครัฐ โดยความแม่นยำจะยังไม่สูงมากนักสำหรับพื้นที่นอกเขตชลประทานที่มีความหลากหลายของการเพาะปลูก
แล้วจะนำฐานข้อมูลเกษตรที่มีคุณภาพนี้ไปพัฒนาการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ยั่งยืนให้ชาวนาอย่างไร?
งาน วิจัยยังแสดงให้เห็นว่าฐานข้อมูลที่มีคุณภาพเช่นนี้หากเข้าถึงได้โดยทุกภาค ส่วนจะช่วยสนับสนุนเกษตรกร เอกชนผู้รับประกันภัย และรัฐ ดังนี้ (1) ให้ตัวเกษตรกรเองใช้ข้อมูลในการปรับตัวเพื่อลดความเสี่ยง (2) ให้เกิดการพัฒนาระบบตลาดประกันภัยที่ยั่งยืน โดยลดต้นทุน และช่วยให้ผู้รับประกันภัยสามารถออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมเช่น ผลิตภัณฑ์ประกันภัยหรือสินเชื่อพ่วงกับประกันภัยประเภทต่างๆ เพื่อให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สถาบันการเงิน หรือรัฐบาลได้นำมาใช้ในการจัดการความเสี่ยงภัย ตลอดจนสามารถกำหนดอัตราเบี้ยประกันที่เป็นธรรมตามสถิติความความเสี่ยงที่แท้ จริง และ (3) ข้อมูลความเสี่ยงของเกษตรกรทั้งระบบก็จะช่วยให้ภาครัฐสามารถออกแบบนโยบายที่ ส่งเสริมให้เกิด Public-Private Partnership โดยผนวกความช่วยเหลือของรัฐเข้ากับการผลักดันตลาดประกันภัยและการปรับตัวของ เกษตรกรได้
การศึกษานี้เป็นเพียงกรณีศึกษาหนึ่งซึ่งมุ่งหวังจะจุดประกายให้ทุกภาคส่วนได้เห็นถึงศักยภาพของการบูรณาการและการลงทุนในเทคโนโลยีในการเก็บข้อมูลภาคการเกษตรที่มีคุณภาพและครบวงจร ตลอดถึงการใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการกำหนดบทบาทที่เหมาะสมของภาครัฐเพื่อให้เกษตรกรจัดการความเสี่ยงได้ด้วยตนเอง และเพิ่มขีดความสามารถให้ภาคเอกชนเข้ามาแข่งขันในตลาดประกันภัยอย่างยั่งยืน เพื่อความมีเสถียรภาพของเกษตรกร ระบบการเงินภาคการเกษตร และเสริมสร้างนโยบายของภาครัฐที่จะทำให้เกิดวินัยทางการคลังในระยะยาว
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของบทความที่จะนำเสนอในการสัมมนาทางวิชาการประจำปี 2559 ของธนาคารแห่งประเทศไทยในหัวข้อ “มิติใหม่ของนโยบายเศรษฐกิจในยุคแห่งข้อมูล” ซึ่งจัดโดยสายนโยบายการเงินและสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ในวันที่ 15-16 กันยายน 2559 (รายละเอียดที่ www.bot.or.th) ข้อคิดเห็นที่ปรากฏในบทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของคณะ จึงไม่จําเป็นต้องสอดคล้องกับนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,186 วันที่ 25 – 27 สิงหาคม พ.ศ. 2559
ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 28 ส.ค. 2559