เจ้าของที่ดินหรือผู้ครอบครองที่ดินรายใดให้บุคคลอื่นเช่าที่ดินเพื่อประกอบ เกษตรกรรมโดยรู้อยู่แล้วว่า บุคคลดังกล่าวเป็นคนต่างด้าว หรือเป็นผู้แทนของคนต่างด้าว ต้องระวางโทษ จําคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท
ปัญหาสำคัญของการให้เช่าที่ดินเพื่อทำการเกษตร คือ ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเช่าที่ดินเพื่อทำการเกษตรกรรม โดยเฉพาะ พ.ร.บ.การเช่าที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๒๔ เป็นกฎหมายเก่า ยังไม่มีการปรับปรุง และมีลักษณะคุ้มครองเกษตรกรผู้เช่ามากกว่าเจ้าของที่ดิน ทำให้เจ้าของที่ดิน ไม่อยากปล่อยที่ดินให้เกษตรกรเช่ามาทำกิน ยอมปล่อยที่ดินทิ้งร้าง และเสียภาษีท้องที่ในอัตราสูง เป็นการสูญเสียทางเศรษฐกิจและกำลังการผลิตของประเทศ
ล่าสุด พระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ ๒๘ เม.ย.๕๙
เช่านาชัดเจนขึ้น ทำหลักฐานการเช่าเป็นหนังสือได้
สาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ อาทิ
มาตรา ๒๖ การเช่านาที่ได้ทําหลักฐานการเช่านาไว้เป็นหนังสือ ให้มีระยะเวลาการเช่านา ตามที่กําหนดในหลักฐานการเช่านานั้น แต่ถ้าไม่ได้กําหนดระยะเวลาการเช่านาในหลักฐานการเช่านา หรือกําหนดไว้น้อยกว่าสองปี ให้การเช่านานั้นมีกําหนดสองปี
การเช่านาที่มิได้ทําหลักฐานการเช่านาไว้เป็นหนังสือให้ถือว่าการเช่านามีกําหนดคราวละหกปี
เมื่อสิ้นระยะเวลาการเช่านาตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ถ้าผู้ให้เช่านามิได้บอกเลิกการให้เช่านา ตามมาตรา ๓๗ และมิได้มีการตกลงเช่านากันใหม่ ในกรณีได้ทําหลักฐานการเช่านาไว้เป็นหนังสือให้ถือว่า หลักฐานการเช่านานั้นยังคงมีผลบังคับต่อไปเท่าระยะเวลาที่กําหนดไว้ในหลักฐานการเช่านานั้นหรือมีกําหนด สองปีตามวรรคหนึ่ง แล้วแต่กรณี และในกรณีที่ไม่มีหลักฐานการเช่านาเป็นหนังสือ ให้ถือว่ามีการเช่านานั้น ต่อไปอีกคราวละหกปีตามวรรคสอง
บทบัญญัติมาตรานี้ มิให้ใช้บังคับแก่การเช่าช่วงนา
มาตรา ๓๗ ถ้าผู้ให้เช่านาไม่ประสงค์จะให้เช่านาต่อไปเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการเช่านา ตามมาตรา ๒๖ ผู้ให้เช่านาต้องแจ้งเป็นหนังสือต่อผู้เช่านาก่อนสิ้นสุดระยะเวลาการเช่านาไม่น้อยกว่าหกเดือน พร้อมทั้งแจ้งให้ คชก. ตําบล ทราบด้วย และเมื่อ คชก. ตําบล ได้รับแจ้งแล้ว ให้มีหนังสือสอบถามผู้เช่านาว่า ยังประสงค์จะเช่านานั้นต่อไปหรือไม่
ถ้าผู้เช่านายังประสงค์จะเช่านานั้นต่อไป ให้แจ้งผู้ให้เช่านาและ คชก. ตําบล ทราบภายใน สามสิบวันนับแต่วันได้รับแจ้งจากผู้ให้เช่านา และให้ คชก. ตําบล ดําเนินการไกล่เกลี่ยให้ยุติ ถ้าสามารถ ไกล่เกลี่ยให้ยุติได้ ก็ให้ดําเนินการตามผลของการไกล่เกลี่ย ในกรณีที่ไม่อาจไกล่เกลี่ยให้เป็นที่พอใจของ ทั้งสองฝ่าย ให้ คชก. ตําบล พิจารณาเหตุผลและความจําเป็นของผู้ให้เช่านา ถ้าเห็นว่าผู้ให้เช่านามีความจําเป็น อันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ที่จะใช้ที่นานั้น ก็ให้สั่งให้การเช่านาสิ้นสุดลง เว้นแต่ในกรณีที่เห็นว่าผู้เช่านาจะเดือดร้อน เกินสมควร จะให้ผู้เช่านาทํานาต่อไปอีกหนึ่งปีก็ได้
มาตรา ๔๐ ให้ คชก. ตําบล ประกาศกําหนดอัตราค่าเช่านาขั้นสูง ผลผลิตขั้นสูงของผลิตผล เกษตรกรรมซึ่งเป็นพืชหลักที่นิยมปลูกในพื้นที่ กําหนดเวลาที่ผู้ให้เช่านาอาจเรียกเก็บค่าเช่านาในแต่ละปี ตามความเหมาะสมแห่งท้องที่ และประเภทของพืชหลัก
ค่าเช่านาให้คิดเป็นรายปี
ห้ามต่างด้าวเช่าที่ดินเพื่อประกอบเกษตรกรรม
สำหรับกรณีมีความเป็นห่วง การสวมสิทธิเช่าที่ดินหรือการแสวงหาผลประโยชน์ของกลุ่มทุนข้ามชาตินั้น พระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙ ใน มาตรา ๕/๒ ห้ามมิให้คนต่างด้าวเช่าที่ดินเพื่อประกอบเกษตรกรรม หรือดําเนินการ ไม่ว่า ด้วยวิธีการใดเพื่อหลีกเลี่ยงมิให้ตกอยู่ภายใต้บังคับแห่งพระราชบัญญัตินี้
คนต่างด้าวตามวรรคหนึ่ง ได้แก่
(๑) บุคคลธรรมดาซึ่งไม่มีสัญชาติไทย เว้นแต่
( ก) คนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน ซึ่งได้รับการสํารวจจัดทําทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร และได้รับการผ่อนผันให้อาศัยอยู่ ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ หรือได้รับสถานะเป็นคนที่เข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่คณะรัฐมนตรีกําหนด รวมถึงบุตรของบุคคลดังกล่าวที่เกิดในราชอาณาจักร
( ข) คนไทยพลัดถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ และบุตรของบุคคลดังกล่าวที่เกิดในราชอาณาจักร
( ค) บุคคลที่นายอําเภอมีหนังสือรับรองว่าอยู่ระหว่างการพิสูจน์สัญชาติไทยเพื่อการเพิ่มชื่อ ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร
(๒) นิติบุคคลซึ่งไม่ได้จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย
(๓) นิติบุคคลที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในประเทศไทย และมีลักษณะดังต่อไปนี้
( ก) บริษัทจํากัดหรือบริษัทมหาชนจํากัดที่มีผู้ถือหุ้นที่ไม่มีสัญชาติไทยถือหุ้นตั้งแต่ร้อยละ ยี่สิบห้าของทุนจดทะเบียน หรือมีผู้ถือหุ้นที่ไม่มีสัญชาติไทยตั้งแต่ร้อยละยี่สิบห้าของผู้ถือหุ้น หุ้นชนิดที่ ออกให้แก่ผู้ถือ ให้ถือว่าหุ้นนั้นผู้ไม่มีสัญชาติไทยเป็นผู้ถือ
( ข) ห้างหุ้นส่วนจํากัด หรือห้างหุ้นส่วนสามัญที่จดทะเบียนแล้ว ที่มีผู้เป็นหุ้นส่วนที่ไม่มี สัญชาติไทยลงหุ้นมีมูลค่าตั้งแต่ร้อยละยี่สิบห้าของทุนทั้งหมด หรือผู้เป็นหุ้นส่วนเป็นผู้ไม่มีสัญชาติไทย ตั้งแต่ร้อยละยี่สิบห้าของผู้เป็นหุ้นส่วน หรือหุ้นส่วนผู้จัดการเป็นผู้ไม่มีสัญชาติไทย
(๔) ห้างหุ้นส่วนสามัญที่มีผู้เป็นหุ้นส่วนเป็นผู้ไม่มีสัญชาติไทย
(๕) สมาคมรวมทั้งสหกรณ์ที่มีสมาชิกเป็นผู้ไม่มีสัญชาติไทยตั้งแต่ร้อยละยี่สิบห้าของสมาชิกทั้งหมด หรือดําเนินกิจการเพื่อประโยชน์ของผู้ไม่มีสัญชาติไทยโดยเฉพาะ หรือเป็นส่วนใหญ่
(๖) มูลนิธิที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ของผู้ไม่มีสัญชาติไทยโดยเฉพาะ หรือเป็นส่วนใหญ่
บทบัญญัติมาตรานี้ มิให้ใช้บังคับกับบุคคลดังต่อไปนี้
(๑) คนต่างด้าวที่เช่าที่ดินเพื่อประกอบเกษตรกรรมโดยอาศัยสนธิสัญญาที่ประเทศไทยเป็นภาคี หรือมีความผูกพันตามพันธกรณี และให้เป็นไปตามบทบัญญัติและเงื่อนไขของสนธิสัญญานั้น ซึ่งอาจรวมถึง การให้สิทธิคนไทยและวิสาหกิจของคนไทยเข้าไปประกอบธุรกิจในประเทศสัญชาติของคนต่างด้าวนั้น เป็นการต่างตอบแทนด้วย
(๒) คนต่างด้าวซึ่งเป็นผู้ได้รับการส่งเสริมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุนสําหรับ การเช่าที่ดินเพื่อประกอบเกษตรกรรมในกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน”
ต่างด้าวฝ่าฝืน จำคุก 6 เดือน - 3 ปี
สำหรับบทกําหนดโทษ
มาตรา ๖๕/๑ เจ้าของที่ดินหรือผู้ครอบครองที่ดินรายใดให้บุคคลอื่นเช่าที่ดินเพื่อประกอบ เกษตรกรรมโดยรู้อยู่แล้วว่า บุคคลดังกล่าวเป็นคนต่างด้าว หรือเป็นผู้แทนของคนต่างด้าว ต้องระวางโทษ จําคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
มาตรา ๖๕/๒ คนต่างด้าวผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๕/๒ หรือใช้ให้ผู้มีสัญชาติไทยดําเนินการเช่าที่ดิน เพื่อประกอบเกษตรกรรมแทนตน ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสามปีและปรับตั้งแต่สองแสนบาท ถึงหนึ่งล้านบาท
ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่ไม่ใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือดําเนินการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวได้เช่าที่ดินเพื่อประกอบเกษตรกรรมอันเป็นการฝ่าฝืน มาตรา ๕/๒ ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทําความผิดตามวรรคหนึ่ง
มาตรา ๖๕/๓ ในกรณีที่ผู้กระทําความผิดซึ่งต้องรับโทษตามมาตรา ๖๕/๑ หรือมาตรา ๖๕/๒ เป็นนิติบุคคล ถ้าการกระทําความผิดของนิติบุคคลนั้นเกิดจากการสั่งการ หรือการกระทําของบุคคลใด หรือไม่สั่งการ หรือไม่กระทําการอันเป็นหน้าที่ที่ต้องกระทําของกรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใด ซึ่งรับผิดชอบในการดําเนินงานของนิติบุคคลนั้น ผู้นั้นต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้สําหรับความผิดนั้น ๆ ด้วย
อ่านฉบับเต็ม ได้ที่ :http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2559/A/038/8.PDF
ที่มา : สำนักข่าวอิศรา วันที่ 3 พ.ค. 2559
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.