แทรกชอนเข้าชายเสื้อ ทิ่มแทงเนื้อนิ่มบาง พาร่างสะท้านไหว
นาง ยืนมองผืนนา สะท้อนในหัวอก นัยน์ตานางหม่นเศร้า เมื่อคิดถึงหนทางปกป้องผืนนานี้จากนายทุน เหมือนเรือนร่างบอบบางดิ้นสู้กรงเล็บแหลมคมพญาอินทรีเพื่อเอาชีวิตรอด
นา มรดกผืนนี้พ่อและแม่ แบ่งให้พี่น้องท้องเดียวกัน เหลือเป็นของนาง 8 ไร่เศษ
นาง ยังนึกถึงคืนนั้นได้ดี ลูกสาวคนโตกำลังจะต้องจ่ายค่าเทอม ลูกคนเล็กกำลังจะขึ้น ม.1 เงินทั้งนั้น ค่าชุดใหม่ สมุดดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัด
ผัวของนางไปทำงานต่างจังหวัด ไม่มีวันได้ผินหน้ามาปรึกษา ยามนอนเห็นแต่ฝาข้างบ้าน บางคืน นาง นอนร้องไห้กับข้างฝา
อีกไม่กี่วัน นายหน้าจะส่งคนมาไล่ออกจากบ้าน
วัน ต่อมา นาง เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเป้สีแดง ก้าวขึ้นรถทัวร์หน้าบ้าน มุ่งสู่กรุงเทพฯ กระเป๋าเป้ ของนาง หนักอึ้ง มันเต็มไปด้วยความหวังที่จะไถ่ถอนที่ดินของตัวเอง คืนกลับมา
นึก ๆ แล้วมันน่าน้อยใจ นาง ไม่น่าหลงเชื่อนายหน้าที่มาหว่านล้อมให้เป็นหนี้ นายทุนเงินกู้นอกระบบ เขาเข้ามาตีสนิท ทำทีว่าเป็นห่วง อยากช่วยเหลือ
ถ้อยคำหวาน ๆ ที่เขาหว่านล้อม เธอเชื่อหัวปักหัวปำ ญาติพี่น้องเตือนก็ไม่เชื่อ
นาง เอาที่นา ไปจำนองกับนายทุนในอำเภอ 5 แสน เอาไปปิดบัญชีกู้ธ.ก.ส. 3 แสน 7 หมื่นบาท นายทุนหักค่าดำเนินการ ค่านายหน้าเหลือเงินติดตัวกลับบ้าน 9 หมื่นบาท
ไม่นาน นายหน้าอีกคนมาหา ถามว่าอยากได้เงินเพิ่มไหม ที่บ้านได้ราคาดี เป็นล้าน จะพาไปหานานหน้าอีกคน เธอก็หลงเชื่อ
ที่บ้านอยู่กับนายทุนคนที่สอง ที่นาอยู่กับนายทุนคนแรก
นางตัดสินใจลงกรุงเทพฯ หางานทำใช้หนี้
ไม่ทันไรนายหน้าโทรมาบอกจะขายที่บ้าน
เธอไม่ยอม ขาย
เธอไปหานายหน้าคนแรกให้ไปไถ่ที่บ้าน ที่สุดที่บ้าน และที่นา ก็มาอยู่ในมือนายทุนคนเดียว รวมหนี้สิน 1.6 ล้านบาท
ความไว้เนื้อเชื่อใจ นายหน้า นายทุน ไม่นาน นายหน้ามาบอกขายที่บ้าน ที่นา ไปแล้ว
นายหน้าส่งคนมาไล่ออกจากบ้าน
นี่เป็นแค่ตัวอย่างปัญหา ที่ก่อนภาครัฐจะขับเคลื่อนปัญหาหนี้นอกระบบ ผ่านกลไกของคณะกรรมการกำกับการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชน มีปัญหานี้เกิดขึ้นจริง และเกิดขึ้นหลายจังหวัด ภาคอีสาน
ข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นเสี้ยวหนึ่งของปัญหา ที่รอเวลารัฐบาลแก้ไขหนี้นอกระบบที่ชาวอีสานกำลังเผชิญ
อย่าปล่อยให้ปัญหานี้ กัดกร่อนวิถีชีวิตบรรพบุรุษ ที่สืบทอดมานับร้อยๆ ปี