เสรี พงศ์พิศ
สังคมไทยปี 2558 มี 4 เรื่องใหญ่ ที่เชื่อว่าจะค้างคาและเป็นปัญหาใหญ่ต่อไปในปีหน้า และจะทำให้การพัฒนาประเทศเป็นไปด้วยความยากลำบากหากไม่มีการแก้ไขอย่างจริงจังหนึ่ง หนี้สิน โดยเฉพาะของคนระดับรากหญ้าและระดับกลาง หนี้ครัวเรือนโดยรวมอาจไม่สะท้อนอะไรมากนัก ไม่ว่าจะสองหรือสามแสน เพราะสำหรับชาวบ้าน เป็นหนี้ห้าหมื่นหรือแสนเดียวก็อาจจะทำให้เสียไร่เสียนา บ้านแตก ชุนล่มสลาย หนี้สินพ่อค้านักธุรกิจร้อยล้านพันล้านได้รับความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินและหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน มีการปรับโครงสร้างหนี้ ฟื้นฟูกิจการ ชาวบ้านเป็นหนี้ไม่ได้รับความช่วยเหลือแบบเดียวกัน ธนาคารก็ดี รัฐก็ดี ไม่มีวิธีปฏิบัติที่จะช่วยเหลือพวกเขา แต่ละกรณีเป็นหนี้น้อย แต่จำนวนคนมาก ไม่คุ้มกับการดำเนินการ
แต่ปัญหาไม่ใช่แค่เกษตรกรหรือชาวบ้านธรรมดา ครูบาอาจารย์ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ต่างก็เป็นหนี้กันถ้วนหน้า และหนักหนาสาหัสจนเสียการเสียงาน ติดพันสร้างปัญหาและผลกระทบไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและอื่นๆ และจะเป็นดอมิโนแน่ๆ ถ้าหากไม่แก้ไขอย่างเหมาะสม การแก้ปัญหาแบบพักหนี้ หาหนี้เก่าไปใช้หนี้ใหม่ โดยไม่มีการเรียนรู้ จัดระเบียบชีวิตใหม่ ไม่มีทางแก้ปัญหาได้ เพราะวีธีการเหล่านี้ใช้กันมาหลายครั้งแล้ว ไม่ได้แก้ไขอะไรเลย มีแต่ซ้ำเติมเพิ่มหนี้
สอง การเกษตร ปัญหาการผลิต ปัญหาราคาผลผลิต ปัญหาที่ดินทำกิน ปัญหาหนี้สิน ล้วนสัมพันธ์กันอย่างแยกไม่ออก อย่างเรื่องน้ำทำนาที่เป็นปัญหาใหญ่ เพราะการชลประทานของไทยไม่พัฒนา ทั้งๆ ที่ฝนตกอย่างเหลือกินเหลือใช้ แต่ไม่มีวีธีการจัดการให้มีน้ำใช้เพื่อการเกษตรได้ตลอดปี
การทำการเกษตรแบบพึ่งเทวดาเหมาะกับสังคมโบราณแบบเศรษฐกิจยังชีพ แต่สังคมไทยยังให้ชาวไร่ชาวนาอยู่อย่างนั้น เราจึงทำนา 50-60 ล้านไร่ ได้ข้าวไม่ถึง 30 ล้านตัน ทั้งๆ ที่ถ้าทำนาให้ดีเพียง 30 ล้านไร่ก็ได้ผลเท่ากันหรือมากกว่า แล้วยังสามารถปลูกพืชอื่นได้อีกถึง 30 ล้านไร่ ไม่ว่าพืชเศรษฐกิจ หรือเกษตรผสมผสานเพื่อการบริโภคในท้องถิ่น
ชาวนาเริ่มทิ้งนาไปทำงานในเมือง เริ่มขายที่ดินขายนากันมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่คุ้ม ลูกหลานก็ไปเรียนกันหมด ไม่มีใครอยากสืบทอดการทำนาแบบโบราณที่ไม่มีอนาคตนั้นอีก การเรียนวิชาเกษตร สาขาหรือคณะเกษตรในระดับอุดมศึกษาจึงเป็นทางเลือกสุดท้ายของลูกหลานชาวนา
แม้เลือกและเรียนจบก็ไม่ได้ต้องการกลับไปทำนา แต่ไปทำงานในธุรกิจการเกษตร ในหน่วยงานราชการหรือบริษัทเอกชน แล้วนาก็ตกไปอยู่ในมือของนายทุนทั้งไทยและต่างชาติที่ใช้นอมีนี เพราะใครๆ ก็รู้ว่า ปัญหาอาหารขาดแคลนเกิดขึ้นแล้วและจะเป็นปัญหาใหญ่อีกไม่นาน คนมีที่ดินนับว่าโชคดี แต่จะโชคร้ายถ้าหากไม่รู้ว่าตจะจัดการที่ดินให้ผลิตอาหารอย่างคุ้มค่าได้อย่างไร
การเกษตรจะไม่สามารถก้าวข้ามปัญหาต่างๆ เหล่านี้ได้ถ้าหากยังคิดเหมือนเดิม ทำเหมือนเดิมทั้งระดับนโยบายและระดับปฏิบัติ คนไทยโชคดีที่อยู่ในประเทศทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ แต่โชคร้ายที่ไม่สามารถจัดการให้เกิดประโยชน์อย่างที่ควรจะเป็น เพราะรัฐบาลตลอดเวลาที่ผ่านมาขาดวิสัยทัศน์ ไม่ให้ความสำคัญกับการเกษตร ทำให้เกิดการพัฒนาที่ทำลายทรัพยากรดิน น้ำ ป่า คน และชุมชนอย่างน่าเสียใจ
สาม การศึกษา ปัญหาคุณภาพการศึกษาคือ ปัจจัยสำคัญที่สุดที่มีผลต่อการพัฒนาประเทศ ทั้งเศรษฐกิจและสังคม รัฐบาลตลอดมาให้งบประมาณการศึกษาสูงมาก แต่ไม่มีวิสัยทัศน์ในการจัดการพัฒนาระบบและบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ แทนที่การศึกษาจะพัฒนาสังคมกลับเป็นปัญหาและอุปสรรคเสียเอง
เคยคิดกันว่า ปัญหาครูเป็นเพราะไม่มีการดูแลด้านสวัสดิการ วันนี้ครูมีเงินเดือนมากกว่าอาจารย์มหาวิทยาลัย แต่ไม่ได้ทำให้คุณภาพการเรียนของเด็กเป็นอย่างที่คาดหวัง วัดผลทีไรก็ได้ที่ท้ายๆ ไม่ว่าในอาเซียนหรือในกลุ่มแบบไหน ระบบการศึกษาที่รวมศูนย์อำนาจ ที่อยู่ในระบบอุปถัมภ์ ครูผู้บริหารการศึกษาขึ้นต่ออำนาจการเมือง เป็นลูกไล่หัวคะแนน แทนที่จะเป็นตัวอย่างของประชาธิปไตย กลับไปสุมหัวกับผู้มีอำนาจและนายทุน
สี่ ความเป็นธรรม ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ปัญหาหลายมาตรฐานในกระบวนการยุติธรรมทุกด้านและทุกระดับ การเล่นพรรคเล่นพวก เสันสาย ทำลายและจำกัดสิทธิเสรีภาพของผู้คน เกิดการคดโกง การทุจริตคอร์รัปชั่น การเอาเปรียบ กดขี่ข่มเหง ความไม่เป็นธรรมเหล่านี้ล้วนเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาทั้งประชาธิปไตยและการพัฒนาเศรษฐกิจ
นอกจากคอนนคชั่นศิษย์เก่าสถาบัน ยังมีหลักสูตรจัดโดยราชการสำหรับผู้บริหารระดับสูงให้ข้าราชการ นักการเมือง นักธุรกิจ เกิดความสัมพันธ์เครือข่ายที่เป็นดาบสองคม ทำให้เกิดความร่วมมือทั้งทางดีและทางร้าย ร่วมมือกันทำลายความเป็นธรรมก็มีให้เห็นไม่น้อย
ปัญหาทั้ง 4 เหมือนมีวาระปฏิรูป แต่ก็ไม่เป็นการปฏิรูป เหมือนมียุทธศาสตร์ แต่ก็ไม่มียุทธศาสตร์ ดูมีแต่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ความผิดหวังของสังคมเริ่มก่อตัว ถ้าเพิ่มขึ้นและแผ่กว้าง รัฐบาลไหนก็อยู่ไม่ได้ในท้ายที่สุด เพราะอำนาจกับเงินมีพลัง แต่ไม่ยั่งยืน
ที่มา : สยามรัฐ วันที่ 22 ธ.ค. 2558
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.