มอบนโยบาย "สภาเกษตรกร" ทุ่มเททำงานเพื่อประโยชน์แก่เกษตรกรกว่า 20 ล้านคน

Created
วันเสาร์, 26 พฤศจิกายน 2565
Created by
Landactionthai
Categories
ข่าว-สถานการณ์
 

มอบนโยบาย "สภาเกษตรกร" ทุ่มเททำงานเพื่อประโยชน์แก่เกษตรกรกว่า 20 ล้านคน

นายกฯ มอบนโยบายสภาเกษตรกรแห่งชาติ” ขับเคลื่อน “งานด้านการเกษตร ย้ำผลักดันการเกษตรสมัยใหม่ด้วยเทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม ให้พึ่งพาตนเองได้ ตั้งใจทุ่มเททำงานเพื่อประโยชน์แก่เกษตรกรกว่า 20 ล้านคน

 

มอบนโยบาย "สภาเกษตรกร" ทุ่มเททำงานเพื่อประโยชน์แก่เกษตรกรกว่า 20 ล้านคน

 

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (25 พฤศจิกายน 2565) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 2-4 ชั้น 4 โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการ และคอนเวนชันเซ็นเตอร์ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบนโยบายเพื่อขับเคลื่อนการบริหารจัดการการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด และการเลือกสมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติ

มอบนโยบาย "สภาเกษตรกร" ทุ่มเททำงานเพื่อประโยชน์แก่เกษตรกรกว่า 20 ล้านคน

โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย สมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติ คณะกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดประเภทผู้แทนเกษตรกรและคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน

มอบนโยบาย "สภาเกษตรกร" ทุ่มเททำงานเพื่อประโยชน์แก่เกษตรกรกว่า 20 ล้านคน

นายกรัฐมนตรีชมวีดิทัศน์ผลการดำเนินงานพร้อมรับฟังรายงานความสำคัญของการจัดเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดและการเลือกสมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติ ซึ่งเป็นการเลือกตั้งในรอบ 6 ปี เพื่อให้มีผู้แทนองค์กรเกษตรทำหน้าที่เป็นสภาเกษตรกรตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องภายใต้แนวคิด “ร่วมสืบสานอุดมการณ์ที่ผ่านมา ด้วยศรัทธาสู่การเลือกตั้งสภาของเกษตรกร”

มอบนโยบาย "สภาเกษตรกร" ทุ่มเททำงานเพื่อประโยชน์แก่เกษตรกรกว่า 20 ล้านคน

เพื่อทำหน้าที่ดูแลช่วยเหลือและเร่งรัดขับเคลื่อนงานด้านการเกษตร ร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร รวมทั้งการพัฒนาด้านต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือให้เกษตรกรและครอบครัวมีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองได้ พร้อมทั้งสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรและครอบครัว

 

มอบนโยบาย "สภาเกษตรกร" ทุ่มเททำงานเพื่อประโยชน์แก่เกษตรกรกว่า 20 ล้านคน

จากนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดงานและมอบนโยบายว่า เกษตรกรคือรากแก้วของแผ่นดินและประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม รัฐบาลมีความห่วงใยและคาดหวังให้มีรายได้ที่เพียงพอ ซึ่งจากการได้ลงพื้นที่ในหลายจังหวัดทั่วประเทศและได้พบปะเกษตรกรทำให้รับทราบปัญหาความเดือดร้อน เช่น ปัญหาหนี้สิน ปัญหาแหล่งน้ำ และปัจจัยการผลิต

มอบนโยบาย "สภาเกษตรกร" ทุ่มเททำงานเพื่อประโยชน์แก่เกษตรกรกว่า 20 ล้านคน

รวมทั้งภัยธรรมชาติ และวิกฤติโรคระบาดที่ส่งผลต่อการประกอบอาชีพของเกษตรกรโดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งรัฐบาลได้พยายามให้ความช่วยเหลือเยียวยาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เช่น การมอบเงินช่วยเหลือ การพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย การจ้างแรงงานเกษตรกร การปรับโครงสร้างการผลิตการแปรรูปและการตลาด ซึ่งเป็นห่วงโซ่ที่สำคัญเพื่อสร้างโอกาสสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างให้เกษตรกรมีความเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองได้เพื่อทำให้สินค้าเกษตรได้รับการยอมรับในเวทีโลก

มอบนโยบาย "สภาเกษตรกร" ทุ่มเททำงานเพื่อประโยชน์แก่เกษตรกรกว่า 20 ล้านคน

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญ และมีความอุดมสมบูรณ์ต่างประเทศมีความสนใจในคุณภาพอาหารของไทยและเป็นความต้องการของตลาดโลก ดังนั้นจึงต้องทำให้สินค้าเกษตรมีมูลค่าสูงขึ้น ลดต้นทุนการผลิต โดยการใช้เครื่องมือเครื่องจักรและนวัตกรรมต่าง ๆ เข้าสนับสนุน ปรับกระบวนการผลิตโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญ รวมทั้งการทำเกษตรอัจฉริยะ การทำเกษตร BCG ที่ต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และการใช้สารเคมีในภาคการเกษตร

มอบนโยบาย "สภาเกษตรกร" ทุ่มเททำงานเพื่อประโยชน์แก่เกษตรกรกว่า 20 ล้านคน

โดยในอนาคตจะมีมาตรการเพื่อการควบคุมสินค้าและผลิตผลทางการเกษตรที่มีมาตรฐานรับรอง เพื่อการบริหารจัดการภาคการเกษตรอย่างครบวงจร นอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยสนับสนุนทั้งในกระบวนการผลิต การแปรรูป และการจัดจำหน่าย จะทำให้ผลผลิตมีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม ตรงกับความต้องการของตลาด

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการได้พบปะกับสภาเกษตรกรในหลาย ๆ ครั้งได้มีการหารือเพื่อการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและส่งเสริมพัฒนาเกษตรกรในด้านต่าง ๆ เพื่อให้ทุกคนสามารถเดินหน้าไปด้วยกันได้อย่างเข้มแข็ง โดยมีการกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาและผลักดันข้อเสนอแนะต่าง ๆ ของสภาเกษตรกร รวมไปถึงการให้ผู้แทนเกษตรกรเข้าร่วมในคณะกรรมการต่าง ๆ ของรัฐบาล

เพื่อร่วมขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลในการสร้างความมั่นคง พร้อมทั้งการสร้างเกษตรสมัยใหม่โดยใช้เทคโนโลยี งานวิจัยและนวัตกรรมมาปรับใช้เพื่อสร้าง smart farming ให้เกิดผลผลิตที่มากขึ้น มีคุณภาพดีเป็นที่ต้องการของตลาดและมีความปลอดภัย โดยได้จัดให้มีองค์ความรู้ เงินทุน การวางระบบบริหารจัดการน้ำ การวางโครงสร้างระบบขนส่ง และระบบอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ต่างๆ ไว้เพื่อรองรับ

นอกจากนี้ ยังได้มีการหารือร่วมกันเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัด และได้ตั้งคณะกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรประเภทผู้แทนเกษตรกรขึ้น เพื่อช่วยสนับสนุนและเตรียมความพร้อมให้การดำเนินการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โปร่งใส ไม่มีการทุจริต เป็นธรรมและเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วม

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า การเลือกสมาชิกสภาฯ เพื่อเป็นผู้แทนของเกษตรกรกว่า 20 ล้านคน มีความสำคัญ เพราะจะเป็นบุคคลที่เข้ามาทำหน้าที่ประสานความร่วมมือ พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาร่วมกัน ผ่าน“สภาเกษตรกรแห่งชาติ” มีการทำงานร่วมกับรัฐบาลอย่างเป็นระบบในการเสนอข้อคิดเห็นและนโยบายการดำเนินงาน เพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่องค์การเกษตรกร ให้เกษตรกรพึ่งพาตนเองได้ รวมทั้งยังเป็นกระบอกเสียงในการสะท้อนปัญหาให้ภาครัฐและร่วมมือกันหาแนวทางการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงประเด็น ซึ่งจะช่วยให้การทำงานของรัฐบาลสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้ดียิ่งขึ้น

มอบนโยบาย "สภาเกษตรกร" ทุ่มเททำงานเพื่อประโยชน์แก่เกษตรกรกว่า 20 ล้านคน

นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า การเตรียมการเพื่อเลือกตั้งสภาเกษตรกรฯ เป็นโอกาสดีและเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่อาสาจะเข้ามาเป็นสมาชิกสภาได้เข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ และกฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงานเพื่อเกษตรกรทุกคน และหวังว่าการเลือกตั้งสภาเกษตรกร “โดยเกษตรกร ของเกษตรกร เพื่อเกษตรกร” จะทำให้ได้สมาชิกสภาที่มีความตั้งใจทุ่มเททำงาน และพร้อมเข้ามาบูรณาการการทำงานร่วมกับรัฐบาล เพื่อคุ้มครองและรักษาผลประโยชน์ของเกษตรกรกว่า 20 ล้านคนอย่างแท้จริง พร้อมขอให้การดำเนินการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรบรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ทุกประการ

มอบนโยบาย "สภาเกษตรกร" ทุ่มเททำงานเพื่อประโยชน์แก่เกษตรกรกว่า 20 ล้านคน

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมนิทรรศการการเกษตรด้านต่าง ๆ เช่น การผลักดันกฎหมายเพื่อเกษตรกรไทย โดยการปลดล็อคไม้ป่า 58 ชนิด การใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา พ.ศ. 2560 การเสนอพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2560 นิทรรศการการเชื่อมโยงตลาดสินค้าเกษตรไทย-จีน ที่เป็นโอกาสในการส่งเสริมการส่งออก การพัฒนาและยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตรของไทย โดยความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชนทั้งในและต่างประเทศ การขับเคลื่อน BCG สู่ความยั่งยืน เช่น โครงการเพิ่มมูลค่าฟางข้าวด้วยนวัตกรรมการผลิตแผ่นเยื่อฟางข้าว เพื่อช่วยลดมลภาวะสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ภาคเหนืออย่างยั่งยืน เป็นต้น

ที่มา คอลัมน์การค้า การเกษตร ฐานเศรษฐกิจ / 25 พ.ย 2565