นักวิชาการป่าไม้ไม่เห็นด้วยเปลี่ยนป่าเป็นป่าดิบทั้งประเทศ

Created
วันพุธ, 01 สิงหาคม 2555
Created by
เดลินิวส์
Categories
ข่าว
 

 

นักวิชาการป่าไม้ไม่เห็นด้วยเปลี่ยนป่าเป็นป่าดิบทั้งประเทศ

นักวิชาการป่าไม้ ฟันธงไม่เห็นด้วยกับ "ปลอดประสพ" เปลี่ยนป่าเต็งรังเป็นป่าดิบ เหตุงบเยอะ-ระยะเวลานาน แนะให้ส่งเสริมความสมบูรณ์ของป่าเดิม ห่วงเปลี่ยนป่าเต็งรังทำไม้สักสูญพันธ์จากประเทศ

วันนี้ ( 24 ก.ค.) ที่ห้องประชุมอาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดการแถลงข่าวเรื่อง “ข้อเท็จจริง...เปลี่ยนป่าเต็งรัง เป็นป่าดิบทั้งประเทศ ได้จริงหรือ?”  โดย รศ.วุฒิชัย  กปิลกาญจน์  อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า  ตามที่ปรากฎเป็นข่าวกรณีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีแนวคิดเปลี่ยนป่าเต็งรังให้เป็นป่าดิบทั้งประเทศ เพื่อประโยชน์ในการป้องกันน้ำท่วม ในฐานะที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นสถาบันการศึกษาสมควรจะมีการนำเสนอข้อมูลและข้อเท็จจริงในเชิงวิชาการ เพื่อประโยชน์ในการประกอบการตัดสินใจของรัฐบาล  โดยขณะนี้สังคมกำลังมีข้อสงสัยถึงแนวคิดดังกล่าวว่าสามารถทำได้จริงหรือไม่

รศ.ดร.ดอกรัก  มารอด  อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยาป่าไม้ ม.เกษตรฯ กล่าวว่า ตนมองว่าแนวคิดการเปลี่ยนป่าเต็งรังเป็นป่าดิบคงไม่สามารถเกิดขึ้นได้  เนื่องจากต้องใช้งบประมาณและระยะเวลายาวนานมาก แต่หากจะให้ยกตัวอย่างการเปลี่ยนป่าที่ได้ผลคือกรณีโครงการพระราชดำหริที่ห้วยฮ่องไคร้  อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่  ซึ่งแต่ก่อนมีสภาพเป็นป่าเต็งรัง แต่เมื่อมีการสร้างเขื่อนเอาน้ำมาปล่อยในช่วงหน้าแล้ง และมีการปลูกไม้ที่ความชื้น ป่าไม่ก็มีโอกาสเปลี่ยนเป็นไม้ไม่ผลัดใบมากขึ้นเพราะมีการอุ้มน้ำไว้ตลอด แต่หากจะเปลี่ยนป่าเต็งรังทั้งประเทศจะมีปัญหาใหญ่แน่นอนคือจะนำน้ำที่ไหนมาปล่อยในพื้นที่เพื่อให้ความชุ่มชื้นอยู่ตลอด อีกทั้งงบประมาณที่ต้องจัดสรรอย่างต่อเนื่อง เพราะการเปลี่ยนป่าเต็งรังเป็นป่าดิบชื้นจำเป็นต้องใช้ระยะเวลานานมาก เฉพาะเบื้องต้นต้องมีการกันไฟป่า ต้องเพิ่มความชื้นในดิน ต้องปลูกต้นไม้เพิ่ม  หากทำควบคู่กันให้ได้ 15 ปี อาจมีโอกาสได้เห็นต้นไม้พื้นล่างมากขึ้น แต่ระหว่างนี้ต้องกันไม่ให้เกิดไฟโดยเด็ดขาด  เพราะหากเกิดไฟป่าก็ต้องกลับไปเริ่มต้นกระบวนการใหม่ทั้งหมด  ทั้งนี้  ตนมองว่าหากจะนำงบประมาณไปเปลี่ยนสภาพป่าเพื่อป้องกันน้ำท่วมควรนำงบเหล่านี้มาฟื้นฟูสภาพป่าที่เสื่อมโทรมให้กลับมามีความสมบูรณ์ในการเก็บกักน้ำจะได้ผลมากกว่า 

รศ.ดร.นริศ  ภูมิภาคพันธ์  อาจารย์ประจำคณะวนศาสตร์ ภาควิชาชีววิทยาป่าไม้ ม.เกษตรฯ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนป่าเต็งรังหรือป่าผลัดใบให้เป็นป่าดิบ  เพราะป่าแต่ละชนิดมีคุณค่าและประโยชน์ที่แตกต่างกัน หากมีการเปลี่ยนแปลงป่าจะทำให้ทรัพยากรหลายชนิดสูญพันธ์ไปจากประเทศได้  เพราะผลกระทบด้านโครงสร้างความโล่งหรือทึบของป่าส่งผลต่อความเป็นอยู่และการเติบโตของสิ่งมีชีวิต  เช่น ไม้สัก  ไผ่บางชนิด  เห็ดเผาะ อาจไม่เหลือให้เห็นอีก

ศ.ดร.นิวัต  เรืองพานิช  นายกสมาคมวนศาสตร์ มองว่ามนุษย์ไม่ควรเปลี่ยนแปลงธรรมชาติ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้  ป่าไม้เคยมีสภาพเช่นไรก็ควรให้เป็นเช่นนั้น  เพราะป่าไม้ทุกชนิดต่างมีคุณสมบัติเฉพาะตัวในการรักษาสมดุลธรรมชาติ  พร้อมแนะนำว่าแทนที่จะมีการเปลี่ยนป่าควรนำงบประมาณเหล่านี้ไปส่งเสริมป่าเดิมให้สมบูรณ์ ปลูกป่าเสริม ป้องกันไฟ  โดยเฉพาะหากรักษาป่าเต็งรังให้ไม่เกิดไฟป่าได้นานเข้าสภาพป่าจะเปลี่ยนแปลงเอง

เดลินิวส์ วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม 2555