งดนาปรังปลูกพืชน้ำน้อย กำไรเห็นๆ...ดีกว่าขายข้าว

Created
วันพุธ, 07 มีนาคม 2561
Created by
ไทยรัฐ
Categories
ข่าว
 

 

LesswaterFarm

ปลายปี 2559 มีประกาศจากภาครัฐ...ปี 2560 ปริมาณน้ำมีน้อย ควรงดทำนาปรัง เกษตรกรรายไหนที่ยังฝืนทำนา อาจเสี่ยงกล้าข้าวยืนต้นตาย ส่วนคนที่ต้องการงดทำนาปรัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีงบช่วยเหลือสำหรับเป็นค่าการจัดการค่าเมล็ดพันธุ์ ให้ไร่ละ 2,000 บาท รายละไม่เกิน 15 ไร่

ได้ยินคำเตือนจากภาครัฐ หลังปรึกษากับภรรยา นายบุญสม ฉายวิโรจน์ ชาวนา ต.พระงาม อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ

เพราะประสบการณ์ทำนา 10 ไร่ ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ขาดทุนมาตลอด นอกจากข้าวราคาถูกลง ค่าจัดการยังสูงขึ้น โดยเฉพาะช่วงนาปรัง ต้องสูบน้ำเข้านามาหล่อเลี้ยงต้นกล้า ยิ่งทำนาหนี้เริ่มพอกพูน...ไหนๆภาครัฐมีงบสนับสนุน จึงคิดปรับพื้นที่เปลี่ยนมาปลูกพืชผักอายุสั้น ตามคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตร

“เลือกปลูกพืชผักชนิดที่ตลาดมีความต้องการ เพื่อจะได้ขายง่าย และไม่ต้องเสียค่าขนส่งไกล เลือกปลูกข้าวโพดหวาน และแตงกวา เพราะใช้น้ำน้อยและเก็บผลผลิตขายได้ไว”

แต่เพื่อให้มีเงินรายวันเข้ากระเป๋าและมีเงินก้อน บุญสม แบ่งพื้นที่ออก เป็น 3 ส่วน แปลงแรก 4 ไร่ ปลูกพืชปรับปรุงบำรุงดิน เพื่อเตรียมรอปลูกข้าวนาปี

ส่วนที่ 2 แบ่งเป็น 2 แปลง ปรับสภาพดินเตรียมแปลงพร้อมปลูกแตงกวา 1 ไร่ และรอไว้ปลูกรอบ 2 อีก 1 ไร่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อไวรัสแฝงในหน้าดิน...หลัง 40 วันผ่านไป ผลผลิตแตงกวา 1 ไร่ รอบแรก หลังหักต้นทุน มีกำไรเหลือ 10,000 บาท

พื้นที่เหลือ 4 ไร่...ปลูกข้าวโพดหวาน ส่วนนี้จะเป็นเงินก้อน ไม่เหมือนกับปลูกแตงกวาที่เป็นเงินรายวันเข้ากระเป๋า ปลูกข้าวโพด 65 วัน เก็บฝักขาย ครั้งแรกส่งขายแม่ค้าในตลาด ถูกกดราคาได้ กก.ละ 5-6 บาท

หลังปรึกษากับภรรยาได้ข้อสรุป ปลูกแล้วต้มขายเองในตลาดนัดหมู่บ้าน ฝักเล็ก 4 ฝัก 20 บาท ถ้าฝักใหญ่ 3 ฝัก 20 บาท....ปลูก-ขายเอง กำไรดีกว่า

ตลอดปี 2560 บุญสมมีรายได้จากการปลูกข้าวโพด 5 รอบ หักต้นทุนพื้นที่ 4 ไร่ ทำรายได้ 90,000 บาท รวมกับปลูกแตงกวาอีกกว่า 45,000 บาท

ดีกว่าทำนา 10 ไร่ หักต้นทุนแล้วเหลือเงินแค่ 60,000 บาท.

 

ที่มา : ไทยรัฐ วันที่ 7 มี.ค. 2561