การเมืองเรื่องราคาข้าว

Created
วันเสาร์, 09 ธันวาคม 2560
Created by
ไทยรัฐ
Categories
ข่าว
 

Ricegrain

 

เกิดการกระทบกระทั่งเล็กๆ น้อยๆระหว่างโฆษกรัฐบาลกับนักการเมือง เมื่อนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีคลังของพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเป็นห่วงราคาข้าวจะตกต่ำ หลังฤดูการเก็บเกี่ยวปีนี้ จึงเสนอรัฐบาลให้ประกันรายได้ชาวนา โดยจ่ายเงินสมทบส่วนต่างราคา เก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางเพื่อชะลอการขาย และจ่ายดอกเบี้ยชดเชยให้ชาวนา

มีคำตอบโต้จาก พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล ว่าการให้ความคิดเห็นของนักการเมืองในช่วงนี้ เป็นแค่การฉวยโอกาสสร้างข่าวให้กับตัวเอง และอาจมีเจตนาทำให้สังคมมองว่ารัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไร ทั้งๆที่รัฐบาลอนุมัติแผนงานเรื่องนี้แล้ว 3 โครงการ โดยใช้งบกว่า 87,216 ล้านบาท รวมทั้งสินเชื่อชะลอขายข้าว และชดเชยดอกเบี้ย

รัฐบาลน่าจะรับฟังข้อเสนอด้วย ความขอบคุณ แม้จะไม่เห็นด้วย ไม่ควรมองในแง่ร้ายว่าเป็นการฉวยโอกาส เพราะว่าขณะนี้เป็นฤดูการเก็บเกี่ยวข้าวนาปี จะมีผลผลิตข้าวออกมาพร้อมๆกันทั่วประเทศ ในปริมาณที่ล้นตลาด และมักจะถูกกดราคา เป็นเช่นนี้มาช้านาน รัฐบาลในอดีตจึงต้องแก้ไขด้วยมาตรการต่างๆ เช่น การพยุงราคา

ในยุครัฐบาล คสช. เกษตรกรก็ประสบปัญหาราคาข้าว และราคายางพาราตกต่ำมาโดยตลอด รัฐบาลไม่ใช้โครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ด ที่มีปัญหารุนแรงในรัฐบาลเลือกตั้ง แต่เลี่ยงไปใช้วิธีการ “รับจำนำยุ้งฉาง” แทน แต่แก้ปัญหาไม่ได้และมีเสียงร้องเรียนอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับปัญหาราคาข้าวตกต่ำ แต่ค่าครองชีพประชาชนสูง

ชาวนาเป็นปัญหาอมตะนิรันดร์กาล เพราะชาวนาเป็นคนกลุ่มใหญ่ จนมีคำกล่าวว่า “ชาวนาคือกระดูกสันหลังของชาติ” ต่อมาเปลี่ยนเป็น “ทุกข์ของชาวนา คือ ทุกข์ของแผ่นดิน” เนื่องจากราคาข้าวไม่แน่นอน ขึ้นลงตามราคาตลอดทั้งภายในและตลาดโลก ปัจจุบันมีชาวนาเกือบ 20 ล้านคน เป็นชาวนารวย 20% นอกนั้นเป็นชาวนาจนกว่า 2.5 ล้านครอบครัว

ภาพในบรรทัด 2

โฆษกรัฐบาลชี้แจงว่า ปัญหาราคาข้าวและยางพารา รัฐบาลไม่ต้องการทำแค่ระยะสั้น แต่จะมองไปถึงการแก้ไขทั้งระบบ เพื่อความยั่งยืนในระยะยาว โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิต ด้วยเกษตรแปลงใหญ่ ดูแลสวัสดิการชาวนา และส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งทุน ฯลฯ แต่ผ่านมาแล้วกว่าสามปี ยังไม่เห็นผลเป็นรูปธรรม

แนวความคิดในการแก้ปัญหารายได้เกษตรกร ทั้งชาวนาและชาวสวนมีฝ่ายต่างๆเสนอมากมาย มุ่งหวังจะแก้ปัญหาให้คนกลุ่มใหญ่ของประเทศ รัฐบาลควรจะรับฟังโดยดี แม้จะเป็นความเห็นต่างและอาจมีวาระทางการเมือง เพราะการรับฟังเป็นวัฒนธรรมการเมืองประชาธิปไตย ที่ควรมีทุกฝ่าย หากไม่มีก็ต้องปลูกฝัง เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปทางการเมือง.

 

ที่มา : ไทยรัฐ วันที่ 8 ธ.ค. 2560